นครพนม – วันที่ 22 ม.ค.62 บริเวณลานกันเกรา ริมแม่น้ำโขง หน้าตลาดอินโดจีน ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม ได้กล่าวกับประชาชนที่มาฟังคำปราศรัยว่า หลังจบนักเรียนนายร้อยฯ ก็มารับราชการครั้งแรกที่นครพนม ต่อสู้กับอธรรมต่างๆ จนได้ฉายาว่า “วีรบุรุษนาแก” ต่อมามีเหตุการณ์ปล้นธนาคารที่มุกดาหาร ก็ได้ทำการปราบปรามสำเร็จ ในขณะนั้นบ้านเมืองไม่มีความสงบเรียบร้อย ตนพยายามทำให้บ้านเมืองสงบ นักการเมืองที่ค้าขายผิดกฎหมาย ก็จับมาดำเนินคดี จากความสามารถในการทำงานจึงได้รับมอบหมายให้เป็นผู้กำกับการมุกดาหาร จากนั้นตนจึงได้รับคำสั่งแต่งตั้งไปเป็น ผกก.ที่ชลบุรี ก็ได้จัดการผู้มีอำนาจ จนได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เสรีทำไม่ได้ เวลานี้ตนมีอายุ 70 ปีแล้ว เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา จึงต้องลงมาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง โดยการตั้งพรรคเสรีรวมไทย โดยตนเป็น หน.พรรค นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต ส.ส.10 สมัย นครพนม เป็น รอง หน.พรรค ส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบ 350 เขต ซึ่งถึงปัจจุบันนี้มีแค่ 3 พรรคการเมืองเท่านั้นที่ส่งผู้สมัครครบทุกเขต คือพรรคเสรีรวมไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ
“ปัญหาที่จะต้องแก้คือ ทหารยึดอำนาจ เป็นอันดับ 4 ของโลก ไม่รู้จะยึดอำนาจไปทำอะไร ทหารยึดอำนาจมา 4 ครั้ง โดยที่ทหารไม่ทำหน้าที่ของตนเอง ไปยุ่งทุกเรื่อง ทหารจะมาลงเลือกตั้งไม่ได้หรอก เพราะไม่มีมันสมอง คิดแต่จะเป็นนายกอย่างเดียว การยึดอำนาจครั้งสุดท้าย จึงวางแผนสร้างเรื่อง ให้พรรคประชาธิปัตย์ กับสุเทพ เทือกสุบรรณ หน.กปปส.ป่วนเมือง ยึดสถานที่ราชการ อ้างว่าบ้านเมืองวุ่นวาย จึงยึดอำนาจ คิดเอง สร้างเอง เพื่อจะเข้ามาแก้ไขบ้านเมือง เมื่อเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็เปิดเพลงทุก หกโมงเย็น กล่อมประชาชนให้หลงเชื่อ คนไหนไม่เชื่อก็จับไปปรับทัศนะคติในค่ายทหาร ซึ่งเป็นการขู่ประชาชน ผมเป็นตำรวจก่อน พล.อ.ประยุทธ์ฯ 4 รุ่น เมื่อปี 2550 มีม็อบที่หน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่มีทหารคนใดสลายม็อบได้ ผมได้เข้าไปสลายม็อบจนสำเร็จ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน จึงขอลงมาแก้ไข ไม่มีใครกล้าเรียกเข้าไปปรับทัศนะคติ เราทำงานกันจริง ๆ ทหารจึงไม่กล้ายุ่ง ผมไม่สนใจ เพราะทหารทำงานในห้องแอร์ ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ ทหารจะต้องไม่ปฏิวัติจากการเลือกตั้งได้อีกแล้ว”
ข่าวน่าสนใจ:
พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ฯกล่าวต่อประชาชนที่มาฟังต่อว่า “พรรคพลังประชารัฐ ตั้งโครงการประชารัฐ เอาเงินมาช่วยเหลือชาวบ้าน เอาเงินภาษีมาแจก เลยตั้งพรรคของตนเองว่า พรรคพลังประชารัฐ ไปดูด ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และอีกหลาย ๆ พรรค กลัวว่าจะแพ้การเลือกตั้ง จึงเอาเงินอีกแสนกว่าล้าน แจกชาวบ้านทั่วประเทศ แจกเงินคนจน หว่านเงินให้คนจน 14 ล้านคน ถ้าเลือกพรรค พปชร. 7 ล้านคน รวม สว.ที่แต่งตั้งเอง 250 คน ก็จะเป็นพรรคใหญ่ ช่วงนั้นพรรคเพื่อไทยใหญ่ที่สุด ขู่จะยุบพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย กลัวถูกยุบ จึงไปตั้งพรรคเล็ก พรรคน้อย สาขาแยกไปอีก ถึงแม้จะมีแนวคิดอย่างไรขอให้ประชาชนช่วยเลือกพรรคที่เป็นประชาธิปไตย ยกตัวอย่างเช่น พม่า เป็นรัฐบาลเผด็จการมาหลายปี คนพม่าหนีมาทำงานที่ประเทศไทยหรืออยากให้ประเทศไทยเป็นเผด็จการ แล้วให้คนไทยไปทำงานที่พม่า อย่างนั้นหรือ จึงขอให้เลือกพรรคที่เป็นประชาธิปไตยจริง ๆ
มี พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส คนเดียวที่ปราบทหารได้ ให้พรรคของเสรีพิสุทธิ์ เป็นพรรคขนาดใหญ่มาสู้กับทหาร ดูสักครั้ง จะต้องเลือกพรรคเสรีเข้าสภา
มีนักวิชาการพูดว่า ทักษิณ คือ ความฝัน เสรี คือ ความจริง เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องรวมพลังสร้างชาติ ร่วมกันแก้ไขปัญหา ให้คนจริงอย่างเสรีได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะได้ไม่มีใครแสวงหาผลประโยชน์ พรรคบางพรรค เขียนโครงการไว้เท่ห์เหลือเกิน เพื่อหาเงินทอนเข้าพรรค ตนจึงตั้งนโยบายว่า หยุดการยากจน หยุดคอร์รัปชั่น หยุดยาเสพติด หยุดรัฐประหาร หยุดไฟใต้ หยุดการแตกแยกสีเสื้อ
ตนเข้ามาจะไปช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีที่ทำมาหากิน ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และมีที่ดินเป็นของตนเอง เพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชน
ทหารทุจริตตั้งแต่การเกณฑ์ทหาร ต่อไปต้องไม่มีการเกณฑ์ทหาร รับเฉพาะผู้สมัครใจ เพราะไม่รู้ประเทศไทยจะต้องไปรบกับใคร ถ้าเลือกพรรคเสรีรวมไทย สัก 10 ล้านเสียง ตนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตนจะเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ที่ไม่ดีที่ผ่านมาให้ได้” จากนั้นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็ขอบคุณชาวจังหวัดนครพนม ก่อนจะเดินทางกลับ กทม.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: