X

สนามเลือกตั้งนครพนมเขต2 ระทึก  2 นางพญา ชิงดำแย่งเข้าป้าย

นครพนม – สนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 2(ส.ส.ฯเขต 2) ประกอบด้วย อำเภอเมืองฯ (เฉพาะตำบลอาจสามารถ,ต.ราชนาควาย, ต.นาทราย, ต.โพธิ์ตาก, ต.ท่าค้อ และเทศบาลเมืองนครพนม), อำเภอท่าอุเทน และ อำเภอโพนสวรรค์

แชมป์เก่าที่ครองพื้นที่นี้คือ นางมนพร เจริญศรี (เดือน) พรรคเพื่อไทย โดยได้รับการไว้วางใจจากประชาชนลงคะแนนให้คราวเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2554 จำนวน 53,739 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคการเมืองอื่นจนไม่เห็นฝุ่น และเป็นการเป็น ส.ส.ครั้งแรกของนางมนพรอีกด้วย

สนามเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 แบบแบ่งเขตฯ 2562 มีสีสันกว่าเขตอื่นเยอะ เพราะเป็นการชิงชัยกันระหว่างหญิงกับหญิง ล้วนเป็นหญิงเหล็กด้วยกันทั้งคู่ ระหว่างนางมนพร (เดือน) เจริญศรี ที่สวมสีเสื้อพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม ปะทะกับ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ (น้ำผึ้ง) ยงใจยุทธ ที่ทางพรรคพลังประชารัฐส่งเข้าประกวด และหมายมั่นปั้นมือว่ามีโอกาสหยิบปลาชิ้นมัน โค่นแชมป์เก่าอย่างนางมนพร(เดือน) ลงได้

ลองมาดูเส้นทางการเมืองของบุคคลทั้งสอง เริ่มจากนางมนพรได้รับการสนับสนุนจากพ่อบุญธรรม “หมอคนยาก” นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และ ส.ส.นครพนม10 สมัย ประเดิมลงสนามการเมืองด้วยการสมัครเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(ส.อบจ.ฯ) เมื่อครบวาระ ปี 2547 ก็ลงสมัครเป็น นายก.อบจ.นครพนม  พอครบเทอม ในปี 2551 ก็สลับเก้าอี้กับ ดร.สมชอบ นิติพจน์ ศิษย์เอกของนายไพจิต ศรีวรขาน ขึ้นเป็น นายก.อบจ.ฯ โดยนางมนพรลดลงมาเป็น รองนายก.อบจ.ฯ จวบจนถึงปี 2554 นางมนพรเบนเข็มลงเลือกตั้งสนามใหญ่ สังกัดพรรคเพื่อไทย

ในปีนี้เอง(2555) การรักษาแชมป์นายก อบจ.ฯ ของ ดร.สมชอบ นิติพจน์ มีคู่ต่อสู้เป็นหญิงสาววัย 40 ปี ชื่อ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ (น้ำผึ้ง) ยงใจยุทธ มีศักดิ์เป็นหลานสาวของ “บิ๊กจิ๋ว” พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ที่มีนักการเมืองลูกน้องเก่าของพ่อใหญ่จิ๋ว อาทิ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นางมนพร เจริญศรี นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ ส.ส.หน้าใหม่พรรคเพื่อไทย( ในขณะนั้น) นอกจากนี้ยังมี ส.ส.รุ่นเดอะอย่าง  นายอรรถสิทธิ์ คันคาย ทรัพย์สิทธิ์ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ให้การสนับสนุน ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ (น้ำผึ้ง) ยงใจยุทธ แพ้แชมป์เก่า ดร.สมชอบ นิติพจน์ 4,000 คะแนน

นางมนพรเมื่อได้ ส.ส.นครพนมเขต 2 สมัยแรก ก็เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง คือหลังวันที่ 22 พ.ค.57 ก็มีคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.(ในขณะนั้น) ห้ามนักการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆทั้งสิ้น  ตั้งแต่บัดนั้นชื่อนางมนพรก็หายเงียบไป ขณะเดียวกันก็ยังมีอดีต ส.ส.ที่ถูกล๊อกด้วยคำสั่ง คสช. หลายคน ออกมาทำกิจกรรมร่วมกับประชาชนในรูปแบบต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

กระทั่งปลายปี 2561 มีการคลายล็อกจึงเห็นนางมนพรโผล่ขึ้นเวทีในรอบ 4 ปี ในวันเปิดศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขาอำเภอนาแก โดยมี”เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นประธานเปิด และครั้งที่สองบนเวทีข้างสนามกีฬาจังหวัดนครพนม เขตเทศบาลเมืองนครพนม ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มาปราศรัยเช็คเรตติ้งกระแสพรรค

ทางด้าน น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ (น้ำผึ้ง) ยงใจยุทธ หลังพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ฯ ปี 2555 ก็ยังคงเส้นคงวา ในการพบปะพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะถ้าทางจังหวัดนครพนม มีงานสำคัญๆเช่น สมโภชพญาศรีสัตตนาคราช งานฉลองนครพนมครบรอบ 232 ปี ฯลฯ ก็จะตั้งโรงทานนำอาหาร ขนม น้ำดื่ม แจกจ่ายแก่ผู้ร่วมงานประจำ หรือกรณีเขื่อนแตกแขวงจำปาศักดิ์ แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว ก็รวบรวมสิ่งของอุปโภค บริโภคนำไปช่วยเหลือ นอกจากนี้ก็นำข้าวของที่จำเป็นไปให้ผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ในชุมชนต่างๆในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ทำให้ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์(น้ำผึ้ง)กลายเป็นขวัญใจของชาวบ้านไปโดยปริยาย

การเลือกตั้ง ส.ส.นครพนม เขต 2 ครั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่าง “นางพญาผู้พี่” นางมนพร (เดือน) เจริญศรี มีคะแนนจากความนิยมพรรคเพื่อไทยยังแรง ส่วนคะแนนตัวผู้สมัครเองไม่ค่อยเท่าไหร่ หากหันมามองทาง “นางพญาผู้น้อง”  น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ (น้ำผึ้ง) ยงใจยุทธ  กระแสพรรคไม่แรงเหมือนเจ้าของพื้นที่เดิม แต่คะแนนส่วนตัวเหนือกว่า เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เหมือนมวยฟอร์มดีขยันลงพื้นที่ ชาวบ้านจึงจดจำชื่อได้เป็นอย่างดี

ทั้งสองจึงเป็นมวยถูกคู่ จากอดีตที่เคยอยู่ในพรรคเดียวกัน และสนับสนุนส่งเสริมให้ลงชิงนายก อบจ.ฯ(2555) วันนี้ต้องแยกกันอยู่คนละฟาก นางมนพร(เดือน)ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงยังกลมเกลียวไม่แตกคอกัน คะแนน 50,000 กว่าในสมัยแรก อาจจะอุ้มเข้าสภาฯได้อีกครั้ง

ส่วน น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ (น้ำผึ้ง) ยงใจยุทธ มี ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม ที่เคยเป็นคู่แข่งทางการเมือง หันมาให้การสนับสนุน ถือเป็นการเลือกตั้งศึกสายเลือดที่จะเป็นการวัดคะแนนนิยมส่วนตัว เพราะทั้งคู่ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยคล้ายๆกัน แชมป์เก่าฐานที่มั่นพรรคเพื่อไทย จะรักษาแชมป์ได้หรือไม่ ต้องดูกันในโค้งสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง

แต่ที่ทั้งสองมีเหมือนกัน คือ ไม่ใช่คนนครพนมโดยกำเนิด

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน