นครพนม – วันที่ 23 ก.พ.62 เวลา 15.00 น. น.อ.อภิชาติ แก้วดวงเทียน ผู้บังคับการ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตฯ) ร่วมกับ ผู้แทนจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ) ตชด.237 และฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน แถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 13,893 เม็ด พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นโนโว อีลิแกนซ์ สีเทา-น้ำเงิน ทะเบียน สกฉ 236 กรุงเทพมหานคร โดยแผ่นป้ายทะเบียนคนร้ายใช้สีสเปรย์พ่นทับอำพราง เพื่อจะได้ง่ายแก่การหลบหนี
ผบ.นรข.เขตนครพนม กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.50 น. ร.อ.ประเสริฐ พุทรา ผู้ช่วยยุทธการและการข่าว รายงานว่ารับแจ้งจากสายลับจะมีการลักลอบส่งมอบยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านมายังฝั่งไทย เบื้องต้นน่าจะลำเลียงขึ้นบกบริเวณพื้นที่บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงสนธิกำลังจากเจ้าหน้าที่ กกล.ฯ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตชด.237 และอาสาสมัครอำเภอท่าอุเทน โดยมี น.ท.กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม ออกลาดตระเวนในแม่น้ำโขง
กระทั่งเวลา 18.50 น. มีเรือกีบติดเครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับหาปลา แล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จอดเทียบท่าอยู่ท้ายหมู่บ้าน ก่อนจะโยนวัตถุบางอย่างขึ้นมาบนบก จากนั้นก็เบนหัวเรือเร่งเครื่องกลับไปยังจุดเดิม เจ้าหน้าที่ยังคงซุ่มเงียบกระทั่ง มีชายคนหนึ่งขับรถ จยย.มาจอดที่ริมตลิ่ง แล้วเดินลงไปก้มหยิบวัตถุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอตรวจค้น ผู้ต้องสงสัยโยนสิ่งของที่เพิ่งหยิบมาทิ้งทันที แล้วถอดรองเท้าวิ่งหนีเข้าไปในป่า
เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมด มาตรวจพิสูจน์ที่กองบัญชาการฯ พบวัตถุห่อด้วยถุงพลาสติก จำนวน 5 ก้อน ภายในมียาบ้าห่อหุ้มด้วยกระดาษซีลกันน้ำสีเหลือง มีตราสัญลักษณ์ Y 1 ประทับอยู่บนห่อ ตรวจนับมียาบ้าทั้งสิ้น จำนวน 13,893 เม็ด มูลค่าประมาณ 1,389,300 บาท ในขณะที่รถ จยย.ของคนร้ายนั้น ใต้เบาะมีกล่องเบ็ด และขวดน้ำดื่มผลิตจากโรงงานแห่งหนึ่งในตำบลไชยบุรี อ.ท่าอุเทน บริเวณช่องเก็บของหน้ารถมีขวดเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ขวด จึงสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมีอาชีพหาปลา ส่วน จยย.ที่ยึดได้ ตรวจสอบแล้วพบเจ้าของมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดกำแพงเพชร สอบถามคนในพื้นที่ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวไม่เคยเห็นแล่นผ่านไปมา
น.อ.อภิชาติฯ ผบ.นรข.เขตนครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า สัญลักษณ์ที่อยู่บนห่อยาบ้านั้น เป็นของชนกลุ่มน้อยว้าใต้ ที่อาศัยตามแนวตะเข็บชายแดนทางภาคเหนือ ใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำโขงเป็นที่ขนส่งยาเสพติด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดนครพนม จากอำเภอบ้านแพงจรดอำเภอธาตุพนม มีแนวแม่น้ำโขงยาว 174 กม. ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจึงมักใช้เป็นช่องทางส่งมอบของกัน โดยมีคนไทยในพื้นที่คอยเป็นหูเป็นตาให้กลุ่มค้ายา เพื่อแลกกับเงินเพียงไม่กี่บาท การทำงานของเจ้าหน้าที่จึงยากพอสมควร แค่ผ่านเข้าไปยังจุดเป้าหมาย ก็ส่งสัญญาณให้กันและกัน เหตุที่ไล่จับคนร้ายไม่ค่อยได้ เพราะคนในพื้นที่ให้ที่หลบซ่อนนั่นเอง
หลังจากนั้นได้ทำบันทึกการตรวจยึด และนำของกลางทั้งหมดนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
