https://youtu.be/fksuzMPDDSM
นครพนม – วันที่ 6 มี.ค.62 เวลา 09.00 น. ในห้องพิจารณาคดีบัลลังก์ 2 ศาลจังหวัดนครพนม มีการพิจารณาคดี กรณีอัยการจังหวัดนครพนมเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ ศรีบุญหอม อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร เป็นจำเลยในคดีอาญาเลขที่ 295/61 ข้อหาซ่องโจร เบิกความเท็จ และแจ้งความอันเป็นเท็จ หลังร่วมกับพวกประกอบด้วย 1.นายสุริยา นวนเจริญ หรือ ครูอ๋อง 2.นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ 3.นางทองเรศ วงศ์ศรีชา 4.นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีนางจอมทรัพย์ 5.นายเสน่ห์ สุพรรณ(เพื่อน) 6.นางรจนา จันทรัตน์(เพื่อน) และ7.น.ส.วาสนา เพ็ชรทอง หลานสาว
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีนางจอมทรัพย์ ตกเป็นจำเลยในคดีขับรถชนคนตายเมื่อปี 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดยวันที่ 24 ก.ย.2556 ศาลฎีกาพิพากษา ตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน กระทั่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย.2558 ได้รับพระราชทานอภัยโทษออกจากเรือนจำกลางนครพนม รวมนางจอมทรัพย์ถูกจำคุก 1 ปี 6 เดือน หลังพ้นโทษก็ได้ร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมช่วยรื้อฟื้นคดีใหม่ โดยอ้างว่าตนตกเป็นแพะ
กระทั่งศาลจังหวัดนครพนมนัดสืบพยาน ตามที่นางจอมทรัพย์ร้องขอใน พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. 2560 โดยอ้างชื่อนายสับ วาปี ที่ออกมายอมรับว่าเป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 รับรื้อฟื้นคดี แต่ในวันสืบพยานฝ่ายผู้ร้องกลับไม่ได้นำตัวนายสับ กุญแจดอกสำคัญขึ้นเบิกความในชั้นศาล
ข่าวน่าสนใจ:
- ททท.เตรียมเปิดตัวการแข่งขันวิ่งเทรลไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัดภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
- นราธิวาส-กรรมกำลังทำงาน - ปมสังหาร "นายกอาร์ม"
- ‘นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อน ‘นครพนมโมเดล’ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขที่สุด
- สมาคมพ่อค้านครพนม จัดงานสมโภช ‘เจ้าพ่อหมื่น’ ปี 2567 เสริมสิริมงคล
กระทั่งวันที่ 17 พ.ย.60 ศาลฯได้ออกนั่งบัลลังก์ พิจารณายกคำร้องของนางจอมทรัพย์ หลังพยานหลักฐานต่างๆไม่น่าเชื่อถือ ที่สำคัญไม่มีหลักฐานใหม่ ที่พอจะให้ศาลฯเชื่อถือ เพื่อสั่งรื้อฟื้นคดีตามที่นางจอมทรัพย์ร้อง ภายหลังศาลฯยกคำร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งความดำเนินกับขบวนการจ้างแพะช่วยแกะ เริ่มจากนายสับ วาปี ร้อนตัวรีบเข้ามอบตัว พร้อมยอมรับว่าไม่ได้ขับรถชนคนตาย ตามที่ให้การกับตำรวจในตอนต้น แต่มีนายสุริยาหรือครูอ๋อง มาติดต่อและรับปากจะให้เงิน 4 แสนบาท แลกกับการรับผิดแทน แต่ยังไม่มีการจ่ายเงินกัน
หลังศาลฯอนุมัติออกหมายจับขบวนการจ้างแกะช่วยแพะ วันที่ 25 พ.ย.2560 เจ้าหน้าที่จึงบุกจับกุมครูจอมทรัพย์ที่บ้านพักใน จ.สกลนคร ในคดีซ่องโจร และให้การเท็จต่อศาลฯ พร้อมฝากขังศาลจังหวัดนครพนม โดยไม่อนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่ครูอ๋องเผ่นหนีออกจากบ้าน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่สถานีรถไฟหลักสี่ กทม. ส่วนจำเลยรายอื่นๆถูกดำเนินคดีตามที่หลักฐานพยานโยงไปถึง
ด้าน นายประทีป นวลเศรษฐ ทนายความนางจอมทรัพย์ เปิดเผยก่อนจะเข้าไปรับฟังการพิจารณาคดีว่า ในช่วงสืบพยานโจทก์นัดสุดท้าย หลังเสร็จสิ้นได้ยื่นหลักทรัพย์ขออนุญาตให้ศาลฯประกันตัวและปล่อยตัวนางจอมทรัพย์ และนายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง ชั่วคราว พร้อมทั้งผู้ต้องหาอื่นๆรวม 7 คน ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นทนายนายสุริยา ซึ่งครูอ๋องได้รับสารภาพต่อศาลฯ ในกรณีที่ไปว่าจ้างนายเสริฐ รูปสะอาด เป็นคนขับรถ ภายหลังทราบว่านายเสริฐขับรถยนต์ไม่เป็น จึงเบนมาจ้างนายสับ วาปี สมอ้างแทน “ในวันนี้ต้องลุ้นว่าศาลฯ จะพิจารณายกฟ้องหรือไม่ โดยเฉพาะคดีที่มีโทษหนักคือข้อหาซ่องโจร” นายประทีปฯทนายฝ่ายจำเลยกล่าว
นอกจากนี้นายประทีป ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2561 นางจอมทรัพย์และนายสุริยาหรือครูอ๋อง ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 5 แสนบาท เพื่อประกันตัวออกไป โดยศาลอุทธรณ์ภาค 8 อนุญาตให้ประกันตัว ส่วนนางวาสนา หลานนางจอมทรัพย์ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา และผู้ต้องหารายอื่นๆยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไปคนละ 1 แสนบาท
เบื้องต้นในการสืบพยานทั้งสองฝ่าย นางทัศนีย์และนางทองเรศรับสารภาพทุกข้อหา ส่วนนางจอมทรัพย์กับนายสุริยาปฏิเสธทุกข้อหา ยกเว้นกรณีที่นายสุริยา ว่าจ้างนายเสริฐมาอ้างเป็นคนขับรถชนนายเหลือ พ่อบำรุง เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยาเพื่อนนางจอมทรัพย์ ได้เดินทางมาถึงที่ศาลฯก่อนใคร โดยยืนอยู่กับทนายมีสีหน้าสดชื่นแต่ยังคงแฝงด้วยความวิตกกับคดี ที่จะถูกพิพากษาภายในไม่กี่นาทีนี้ โดยยอมรับว่าตนถูกตั้งข้อกล่าวหาถึง 10 ข้อหา วันนี้ไม่ได้เตรียมการอะไรมา ส่วนนางจอมทรัพย์เจอ 6 ข้อหา ขณะที่นางทัศนีย์พยานที่อ้างว่าประสบเหตุการณ์ซึ่งๆหน้า คราวรถยนต์ชนคนตาย มีสีหน้าวิตกกังวล และเดินหลบเลี่ยงผู้สื่อข่าวขึ้นไปชั้นบนศาลฯ ด้านนางทองเรศผู้นั่งซ้อนท้าย จยย.นางทัศนีย์ ยังคงคุยกับทนายอาสาที่บริเวณห้องทำงานทนายความข้างรั้วศาล
กระทั่งเวลา 09.30 น. นางจอมทรัพย์พร้อมกับทนายความ ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดนครพนม โดยเข้าประตูรั้วเหล็กข้างศาลฯด้านทิศเหนือ ซึ่งนางจอมทรัพย์สวมใส่ชุดสีขาว และพยายามหลบเลี่ยงทัพสื่อมวลชน โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์อะไร อย่างไรก็ตามบริเวณโดยรอบศาลจังหวัดนครพนม มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนครพนม ร่วม 10 นาย เดินทางมารักษาความสงบด้วย
เวลา 11.30 น. หลังจากศาลจังหวัดนครพนม ได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาหนากว่า 300 หน้า ใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง พิพากษาลงโทษนางจอมทรัพย์จำเลยที่ 1 จำคุก 8 ปี นายสุริยาหรือครูอ๋องเพื่อนนางจอมทรัพย์ จำเลยที่ 2 จำคุก 7 ปี 9 เดือน จำเลยที่ 3 นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ จำคุก 2 ปี 19 เดือน จำเลยที่ 4 นางทองเรศ วงศ์ศรีชา จำคุก 2 ปี 12 เดือน จำเลยที่ 5 นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีนางจอมทรัพย์ จำคุก 2 เดือน ส่วนนายเสน่ห์ สุพรรณ(เพื่อน) นางรจนา จันทรัตน์(เพื่อน) และ 7.น.ส.วาสนา เพ็ชรทอง หลานสาวนางจอมทรัพย์ จำเลยที่ 6-8 ศาลยกฟ้อง
ทั้งนี้ จำเลยที่ 1-7 ศาลฯได้ยกฟ้องในข้อหาซ่องโจร แต่ลงโทษในข้อหาแจ้งความเท็จ และแจ้งความอันเป็นเท็จ ขณะที่นางทัศนีย์และนางทองเรศ ทนายอาสาไม่ได้เดินทางมาศาลฯ ยังไม่ทราบว่าจะประกันตัวหรือไม่ ส่วนนางจอมทรัพย์ และนายสุริยา หรือ ครูอ๋อง ใช้หลักทรัพย์เดิมวงเงิน 5 แสนบาทยื่นประกันตัว ซึ่งนายประทีป นวลเศรษฐ ทนายความนางจอมทรัพย์ เผยว่าจะใช้หลักทรัพย์เดิม 5 แสนบาท ยื่นประกันตัวได้หรือไม่นั้น ยังไม่เพราะอยู่ในดุลยพินิจของศาลฯ ขณะที่รายงานข่าวจำเลยทั้งหมด ยังไม่ได้รับการพิจารณาประกันตัวจากศาลฯ โดยถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังใต้ถุนศาลจังหวัดนครพนม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: