นครพนม – จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Eakkarak Poddy Thakooniam”( นายเอกรักษ์ ตะโกเนียม) โพสต์ข้อความระบุว่า ถูกผู้นำหมู่บ้านกักตัว และไม่ให้รถออกจากหมู่บ้านโคกป่าทอน เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว หลังเดินทางข้ามแดนจากด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 โดยแวะรับเพื่อนชาวลาวร่วมเดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าวด้วย จึงโพสต์ข้อความเพื่อขอความช่วยเหลือกับทางการไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
หลังกลายเป็นข่าวในสื่อโซเซียล มีการแชร์ข้อความมากกว่า 100 ครั้ง นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารืออย่างเร่งด่วน ในเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 19 มี.ค. พร้อมโทรศัพท์สอบถามข้อเท็จจริงไปยังเจ้าแขวงคำม่วน ซึ่งในเบื้องต้นการเจรจาเป็นไปด้วยดี
ขณะเดียวกัน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศทราบเรื่องแล้ว และได้มีการประสานกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครเวียงจันทน์ และสถานกงสุลใหญ่ แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งอยู่ห่างจากแขวงคำม่วนประมาณ 100 กม.เศษ เพราะมีเขตอำนาจครอบคลุมถึงแขวงคำม่วน พร้อมประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมตลอดเวลา ด้านนายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูตไทยประจำลาว สั่งเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่ ณ สะหวันนะเขต ออกเดินทางไปยังแขวงคำม่วน เพื่อพบกับนายเอกลักษณ์ ซึ่งควบคุมตัวอยู่ใน ปกส.(ป้องกันความสงบสุข) เมืองท่าแขก ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดนครพนม
ส่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ก็ได้ติดต่อประสานกับ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม สั่งการให้ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม ทำงานร่วมกับ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ฯ เข้าให้การช่วยเหลือ โดยขณะนี้ตัวนายเอกรักษ์ อยู่ในความควบคุมดูแลของทางการ ส่วนสาเหตุที่ถูกกักตัวนั้นยังไม่แน่ชัด
ข่าวน่าสนใจ:
- นครปฐม จัดกิจกรรม “รวมน้ำใจ ให้กาชาด”
- นทท.พร้อมยังเปิดจุดพร้อมรับรวมสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวฤดูหนาวส่งท้ายต้อนรับปีใหม่ 68 ที่ชัยภูมิ
- ตรัง แม่ค้าสตรีทฟู้ด โอด น้ำมันพืชราคาขึ้นลิตรละ 7 บาท แแบกรับต้นทุนสูง กำไรลด วอนรัฐบาลตรึงราคาลิตรละ 40 บา
- "แพทองธาร"กร้าว!ไม่เอายาเสพติด ให้นราธิวาสนำร่อง"ตัดวงจรผู้ค้าผู้เสพ"
ขณะเดียวกันมีผู้ที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างประเทศไทยและลาว เผยว่ากฎหมายของประเทศนี้มีความเข้มข้นมาก โดยเฉพาะเกี่ยวกับความมั่นคง ผู้ที่เดินทางเข้าไปหากประสงค์จะพำนักในหมู่บ้านนั้น ต้องเข้าแจงวัตถุประสงค์แก่ผู้นำชุมชนก่อน หากไม่มีการแจ้งจะถูกควบคุมตัวไว้สอบสวนหาข้อเท็จจริง ถ้าไม่พบการกระทำผิดก็จะถูกปล่อยตัวกลับ โดยเฉพาะฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างตัวเมือง เวลาไม่เกิน 20.00 น. ทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกมาเตร็ดเตร่โดยไม่มีเหตุจำเป็น คล้ายเคอร์ฟิวของประเทศไทย ส่วนในเขตเมืองสถานบันเทิงทุกแห่งถึงเวลา 24.00 น. ต้องปิดหมด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีทันที
ทางด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดนครพนม กงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันเขต สปป.ลาว และตรวจคนเข้าเมืองนครพนม(ตม.ฯ) กำลังประสานกับทางการลาว ให้ช่วยดูแลความปลอดภัย นายเอกรักษ์ผู้ที่ถูกควบคุมตัว ส่วนกรณีความผิดเบื้องต้นยังไม่ทราบมูลเหตุที่แท้จริง ว่าที่ผู้ถูกควบคุมตัวเข้าไปทำอะไรในประเทศเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากวงในเปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างไทยกับประเทศลาวเป็นไปด้วยดี และเตรียมจะปล่อยตัวนายเอกรักษ์กลับภูมิลำเนา เพราะเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ปรากฏว่ามีกลุ่มนักเลงคีย์บอร์ดบางคนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง ได้คอมเมนต์กล่าวหาจนทางการลาวไม่พอใจ จึงยังไม่ยอมปล่อยตัวนายเอกรักษ์ ซึ่งตามกำหนดการจะให้ทาง ตม.นครพนม ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ไปรับตัวในเวลาไม่เกิน 12.00 น. จึงทำให้การทำงานของฝ่ายประสานยากยิ่งขึ้น
มีรายงานล่าสุดว่า สาเหตุที่นายเอกรักษ์ ข้ามฝั่งไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางไปยังบ้านโคกป่าทอน เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว เบื้องต้นนายเอกรักษ์ อาจได้รับโทรศัพท์จากแม่ ซึ่งอาจไปมีแฟนหนุ่มอยู่ที่นั้น จึงเดินทางข้ามฝั่งไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา
รายงานยังระบุด้วยว่า แม่ของนายเอกรักษ์อาจไปทะเลาะเบาะแว้งกับครอบครัวใดครอบครัวหนึ่งในบ้านโคกป่าทอน ทางครอบครัวดังกล่าวจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป้องกันความสงบสุข หรือ ( ปกส.) เมืองดังกล่าว นายเอกรักษ์จึงตามไปเพื่อพูดคุยเจรจา แต่นายเอกรักษ์อาจจะไปผสมโรงทะเลาะด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่เมืองควบคุมตัวไว้ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าผิดกฎหมายอะไรหรือไม่ หากว่ามีความผิดอาจจะถูกไหม (เปรียบเทียบปรับ) เป็นเงินหรือไม่อย่างไร ซึ่งอยู่ระหว่างให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันทร์ และสถานกงสุลใหญ่ ณ สะหวันนะเขต เร่งประสานอย่างเร่งด่วนแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม กล่าวว่า อยากฝากเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าประเทศไหนก็แล้วแต่ ก็ควรที่จะศึกษาระเบียบข้อกฎหมายที่อาจมีความจำเป็น รวมถึงข้อบังคับข้อห้ามต่างๆของแต่ละประเทศ เมื่อเราเดินทางเข้าไปแล้วอาจจะไม่ได้รู้ลึกกฎหมายของเขา โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงและข้อห้ามต่างๆ โดยทั่วไป ตม.เอง อยากฝากเตือนคนไทยที่เดินทางไป ให้ศึกษาข้อกฎหมายว่าขนมธรรมเนียมประเพณีให้ดี มันก็จะทำให้เราเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำกิจธุระต่างๆได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: