นครพนม – วันที่ 20 มี.ค.62 กรณีนายพัฒนา โต๊ะชาลี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคชาติไทยพัฒนา ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครพนม กล่าวหานายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม พร้อมกับพวก ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ในหนังสือดังกล่าวนายพัฒนาอ้างว่า ตนพร้อมกับนายสุรสิทธิ์ ศิริ ได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านพื้นที่บ้านดานสาวคอย ต.นาแก ว่านายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก กับนายทวี ทองคำ ปลัดอำเภอ(เจ้าพนักงานปกครองปฏิบัติการ) พร้อมอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านดานสาวคอย และเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ร่วมกันลักลอบตัดต้นไม้(ยูคาลิปตัส) และขุดดินในที่ราชพัสดุ แล้วนำไปขายแก่ชาวบ้านในราคารถละ 200 บาท ตนจึงเห็นว่านายศรีและพวกได้ร่วมกันทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เบียดบังลักลอบตัดไม้ ขุดดินในที่ดินหลวงไปขายโดยมิชอบและเพื่อประโยชน์ส่วนตน
หลังจากที่นายพัฒนายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.นครพนม เรียบร้อยแล้ว ก็รีบเดินทางไปเปิดไฮปาร์คกล่าวโจมตีนายศรีที่บริเวณสามแยกที่ว่าการอำเภอนาแก แต่ไม่ค่อยมีผู้ใดให้ความสนใจมากนัก โดยบางคนคิดว่านายพัฒนามาปราศรัยหาเสียงผู้แทน
ล่าสุด วันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแกที่ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในห้องทำงานบนชั้นสองของที่ว่าการอำเภอฯหลังใหม่ โดยกล่าวว่าสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทุกเรื่อง พร้อมกับเปิดเผยรายละเอียดว่า หลังตนเข้ารับตำแหน่งนายอำเภอนาแก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 61 ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนวันหนึ่งได้ออกตรวจราชการตามปกติ มีเหตุต้องไปแวะรับ อส.ที่บ้านดานสาวคอย เนื่องจาก อส.มาฝึกยิงปืนกันที่บริเวณกองร้อย อส.(เก่า) ที่ปล่อยให้รกร้างมานับสิบปี ตนจึงสอบถามก็ได้ความว่ากองร้อย อส.เก่านี้ ถูกปล่อยทิ้งไม่ได้ทำประโยชน์มานาน เวลากลุ่ม อส. หรือ ชุดรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน(ชรบ.) และ อาสาสมัครป้องกันภัยพลเรือน (อปพร.) จะฝึกยิงปืนก็จะนัดกันมาซ้อมที่นี่เสมอ ตนเห็นว่าควรจะมีสนามฝึกยิงปืนให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่มาฝึกกันสะเปะสะปะแบบนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกฯ พบปะนักเรียนจากทั่วอีสาน ชูโครงการ "หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน" เพิ่มโอกาสชีวิต
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
หลังจากนั้นก็ปรึกษาหารือกับหน่วยงานอื่น หลายฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ตนจึงให้นายทัศพร เชื้อตาพลอย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านดานสาวคอย ไปประชาคมกับชาวบ้าน โดยในแผนจะขุดดินขึ้นมาตั้งเป็นบังเกอร์ ตรงที่ขุดก็จะกลายเป็นสระน้ำ ไว้อุปโภคบริโภคในยามหน้าแล้ง ให้ชาวบ้านดูแลกันเอง แต่ทางอำเภอไม่มีงบประมาณ ต้องหาทุนในการปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งการประชาคมชาวบ้านเห็นดี และเสนอให้ตัดต้นยูคาลิปตัสไปขาย เพื่อนำเงินมาเป็นทุน
นายศรีฯเผยต่อว่า ตนจึงขอความอนุเคราะห์เครื่องมือหนักจากหน่วยพัฒนาการทหารเคลื่อนที่ 22 (นพค.22) นำรถแบ็คโฮมาขุดดินถมเป็นบังเกอร์ ต่อมามีชาวบ้านอยากได้ดินไปถมที่บ้าน ก็ให้นายทัศพรมาขอความเห็น ตนจึงบอกว่าชาวบ้านต้องไปหารถมาขุดและขนเอง ชาวบ้านจึงว่าจ้างเอกชนมาขุดดิน พร้อมมีหนังสืออนุญาตขอดินบริเวณที่ราชพัสดุเป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนมีผู้กล่าวหาว่าตนนำดินหลวงไปขายนั้น ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น
ต่อมานายทัศพร เชื้อตาพลอย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านดานสาวคอย ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังบริเวณกองร้อย อส.เก่า พร้อมกับเปิดเผยว่ากองร้อยนี้ถูกปล่อยให้ร้างมานาน อาคารที่ทำการถูกขโมยงัดหน้าต่าง และสายไฟไปขายหมด ทั้งยังเป็นที่มั่วสุมยาเสพติด การพัฒนาปรับปรุงให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม ก็จะเป็นผลดีต่อชุมชน สำหรับข้อกล่าวหาว่านายอำเภอขุดดินขาย ก็ไม่เป็นความจริง มีชาวบ้านยืนยันความบริสุทธิ์นี้ เพราะชาวบ้านจ่ายค่าขนส่งให้รถบรรทุกดินคันละ 200 บาทกันเอง และการตัดต้นยูคาลิปตัสไปขายนั้น ก็เป็นมติของชาวบ้าน ได้เงินมาจำนวน 35,000 บาท เก็บไว้เป็นทุนในการปรับปรุงฟื้นฟูสถานที่กองร้อย ตอนนี้เงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในกองทุน ไม่ได้ไปตกอยู่ในกระเป๋าผู้หนึ่งผู้ใด
ด้านนางลัดดา แสนดี อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 155 หมู่ 6 บ้านนาป่งคอง ต.นาแก ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่นำดินจากที่ราชพัสดุมาถมที่บ้าน พร้อมกับโชว์หนังสือขออนุญาตให้ดู เผยว่ามีคนกลุ่มหนึ่งอ้างเป็นตำรวจสายสืบจากส่วนกลาง มาสอบถามว่าดินนี้ซื้อมาเท่าไหร่ ใครเป็นคนเก็บเงิน พยายามจะให้ตนพูดพาดพิงถึงนายอำเภอนาแก แต่ตนก็พูดตามความเป็นจริงว่าชาวบ้านมีน้ำใจที่จะจ่ายเงินให้รถบรรทุกคันละ 200 บาท จึงอยากจะถามว่าพวกเขาต้องการอะไร ทำไมมาถ่วงความเจริญของหมู่บ้าน เช่นเดียวกับนายคำไป่ หลวงหมื่น อายุ 59 ปี ก็พูดเหมือนกันว่าจ่ายเงินให้คนขับรถบรรทุกดิน 200 บาท เพื่อเป็นน้ำใจที่อุตส่าห์ขนดินมาถมที่บ้านให้ และนางลัดดายังกล่าวเพิ่มเติมว่า คนกลุ่มนี้นอกจากจะอ้างเป็นตำรวจหน่วยสืบราชการลับแล้ว บางคนยังอ้างเป็นปลัด และนักข่าวจากส่วนกลางอีกด้วย
แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า กรณีนายอำเภอถูกร้องเรียนครั้งนี้ น่าจะเกิดจากความไม่พอใจของข้าราชการรายหนึ่ง ที่หมายมั่นปั้นมือจะขึ้นมาเป็นนายอำเภอนาแก แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจากกระทรวงมหาดไทย จึงพยายามหาหนทางทำลายชื่อเสียงของนายอำเภอคนปัจจุบัน โดยอาศัยมือผู้สมัคร ส.ส. และญาติอดีตเป็นปลัด อบต.แห่งหนึ่ง ที่ถูกไล่ออกจากราชการ เพราะหลังจากเป็นข่าวขึ้นมาข้าราชการรายนี้ ก็ถือโอกาสโพสต์เฟซบุ๊กด่านายอำเภออย่างเสียๆหายๆ พร้อมกล่าวหาว่านำดิน นพค.22 ไปขาย ซึ่งเรื่องนี้ น.อ.เชิดชู ชูเสน รอง ผบ.นพค.22 รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะที่ดินแปลงดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ นพค.22 โดยกล่าวว่าหากข้าราชการคนนี้ยังไม่ลบโพสต์ใส่ร้าย นพค.22 ก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: