นครพนม – คืบหน้า กรณีมีผู้ปกครองเยาวชน 6 คน แจ้งความต่อพนักงาสอบสวน สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ตชด.237 จำนวน 10 นาย รุมทำร้ายร่างกายลูกชายจนบาดเจ็บ โดยมีหลักฐานเป็นรอยแผลและร่องรอยเขียวช้ำตามร่างกาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นยอมรับว่าลูกชายกระทำความผิดจริง เนื่องจากนัดกันไปเสพกัญชาที่เถียงนา ห่างจากบ้านท่าแต้ หมู่ 11 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ประมาณ 4 กม. แต่เจ้าหน้าที่ผู้จับกุม ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะตามใบหน้าและลำตัว อีกทั้งยังกำชับให้บอกกับผู้ปกครองว่าตกเถียงนา กระทั่งเด็กกลับมาถึงบ้านทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว จึงเล่าความจริงว่าโดนเจ้าหน้าที่ ตชด.237 ชุดจับกุมรุมกระทืบจนช้ำใน จึงพากันแจ้งความเพื่อดำเนินคดีดังกล่าว
ต่อมา มีคำสั่งจากองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2 จังหวัดขอนแก่น ย้าย ตชด.ที่ทำร้ายเยาวชนทั้ง 6 คน และให้ไปรายงานตัวภายใน 24 ชม. ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ถูกย้ายด่วน มี พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.กองร้อย ตชด.237 เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาของ ตชด.ที่ถูกกล่าวหาทั้ง 10 นาย จึงโดนหางเลขกับลูกน้องด้วย
ล่าสุด วันที่ 1 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนางสายฝน โยบุตดา และ นางพรนภัส โยบุตดา ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นญาติพี่น้อง และมีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้เคียงกัน ผู้ปกครองของโจ๋ที่ถูกยำตีน โดยนางสายฝนเผยว่าหลังทราบข่าว ตชด.ถูกย้ายออกนอกพื้นที่ ก็รู้สึกสบายใจ แต่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยนัก เพราะตนเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา กลัวจะถูกเอาคืนจากบุคคลบางกลุ่ม เหตุที่ต้องออกมาต่อสู้ เพราะหัวอกผู้เป็นแม่ที่รักลูก ยอมไม่ได้ที่เห็นลูกถูกทำร้าย แต่ก็พร้อมที่จะให้อภัยต่อผู้กระทำ ด้านนางพรนภัสก็บอกว่าอยากเห็นคนที่รุมทำร้ายลูกมาขอโทษ ไม่ใช่มีแต่ผู้บังคับบัญชาออกหน้ามาขอโทษแทน และขอขอบคุณผู้ที่ให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัวพวกตน
ระหว่างนั้น มีพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ร.ต.อ.พุทธิพงศ์ อุตะศรี ร้อยเวรเจ้าของคดี เดินทางมายังบ้านของผู้กล่าวหา เพื่อให้เยาวชนที่อ้างว่าโดนทำร้าย นำไปยังเถียงนาจุดเกิดเหตุ และจะสอบปากคำทั้งสองฝ่ายตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
