นครพนม – เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 6 ก.พ. ร.ต.อ.ยงยุทธ ทูลธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไถทับร่างคนมีผู้บาดเจ็บ บริเวณข้างโรงแรมโกลด์เม้าเท้น ริมถนนทางหลวงแผ่นดิน 22 สายนครพนม-สกลนคร บ้านภูเขาทอง หมู่ 3 ต.หนองญาติ หลังรับแจ้งรุดไปพร้อมกู้ชีพ 1669 ร.พ.นครพนม กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และกู้ชีพเทศบาล ต.หนองญาติ
ที่เกิดเหตุพบกองดินเรียงรายหลายกอง ระหว่างทางเชื่อมโรงแรมดังกล่าว ที่กำลังสร้างอาคารโรงแรมใหม่มีความสูงสูง 4 ชั้นใกล้จะแล้วเสร็จ พบรถไถยี่ห้อฟอร์ดสีฟ้า ขนาด 6600 แรงม้า น้ำหนักประมาณ 6 ตัน จอดอยู่ในโครงอาคาร บริเวณล้อหลังทั้งสองข้างจมลงดินลึก 30 เซนติเมตร
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือนายสุรเดช ประวิทย์สิทธิกุล วัย 50 ปี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ซึ่งเป็นเจ้าของรถไถคันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่กู้ชีพช่วยปั้มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต แต่นายสุรเดชทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนมเดือดร้อน! แม่ค้าหวยร้องไห้ รถจักรยานยนต์พร้อมลอตเตอรี่เกือบ 600 ใบถูกขโมย วอนคนร้ายนำมาคืน
- นครพนม เหตุการณ์สลด! เมีย พบศพสามีนอนเสียชีวิตคาเถียงนา คาดโรคประจำตัว
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
- ชายวัย 62 ยืมมอไซค์เพื่อนจะไปรับแฟนมากินข้าวด้วยกัน เกิดเฉี่ยวชนกับรถพ่วงถูกล้อทับดับคาที่
สอบสวนนายกิติ หาวงศ์ อายุ 50 ปี คนขับรถดัมพ์บรรทุกดิน เบื้องต้นให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถ 6 ล้อเพื่อนำดินมาเทถมบริเวณที่สร้างโรงแรม ได้ประมาณ 20 เที่ยว มีนายสุรเดช ผู้ตาย ก็ขับรถไถเพื่อปรับเกรดหน้าดิน ทำทางเดินเชื่อมระหว่างโรงแรมเก่ากับโรงแรมใหม่ให้น้องสาว แต่เครื่องยนต์รถไถมีควันดำมาก นายสุรเดชจึงตั้งคันเร่งค้างไว้โดยไม่ได้ดับเครื่อง ก่อนจะเดินลงไปดูปั๊มหัวฉีด ขณะนั้นเองรถไถเกิดไหลไปทับร่างนายสุรเดช ที่กำลังก้มๆเงยๆอยู่ที่ปั๊มหัวฉีด แล้วลากร่างของผู้ตายเข้าไปในล้อหลังด้านขวาเหยียบทับจมกองดิน ตนสงสัยว่าเครื่องรถยังสตาร์ทอยู่ เสียงเร่งเครื่องดังมีควันดำพวยพุ่ง จึงเดินมาดูพบนายสุรเดชนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้เพลาล้อหลัง ตนรีบดับสวิทซ์รถ วิ่งไปเรียกญาติให้มาช่วย พร้อมโกยดินออกนำร่างออกมาปฐมพยาบาล แต่นายสุรเดชหยุดหายใจแล้ว ขณะที่ญาติๆต่างร้องห่มร้องไห้ปิ่มใจจะขาด ต่างเป็นลมล้มพับ เจ้าหน้าที่ต้องนำแอมโมเนียมาให้สูดดม ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: