นครพนม – กาชาดนครพนม มอบบ้านให้หญิงหม้ายลูกสอง มอบบ้านธารน้ำใจ ในโครงการ ”คนเมืองนครพนม ไม่ทอดทิ้งกัน” เผยอดีตเคยตกต่ำถึงขนาดนอนกระต๊อบ
วันที่ 14 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. นางปัทมา วิทย์ดำรงค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางดุษฏี ครรภาฉาย ประธานชมรมแม่บ้าน มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ค่ายพระยอดเมืองขวาง เป็นประธานมอบบ้านตามโครงการ ”คนเมืองนครพนม ไม่ทอดทิ้งกัน” แก่ น.ส.อุธรณ์ จูมก้อน หญิงหม้ายลูกสองวัย 31 ปี บ้านเลขที่ 197/1 หมู่ 13 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม มี นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู อบต.บ้านผึ้ง ประชาชน ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายเอกราชฯกล่าวว่า ด้วยอำเภอเมืองนครพนม เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต การแก้ไขปัญหาของสังคม การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากจนและผู้ยากไร้ให้มีคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดี สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น โดยการขอรับบริจาคหรือสนับสนุนเงิน วัสดุ อุปกรณ์
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- บุกพิสูจน์ หลังชาวบ้าน พบเสือ หนุ่ม 27 ถ่ายคลิปเสือขณะกรีดยาง
จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน บริษัทห้างร้าน พ่อค้า ประชาชน ที่มีจิตศรัทธาในเขตพื้นที่ทั้ง 13 ตำบล 165 หมู่บ้าน ซึ่งทางอำเภอฯได้พิจารณากลุ่มเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และได้คัดเลือกปรับปรุงก่อสร้าง”บ้านธารน้ำใจ” หลังที่สามแก่ น.ส.อุธรณ์ ซึ่งเป็นผู้ยากไร้ ไม่มีที่ดินทำกิน อาศัยอยู่กับลูกชายหญิงอีก 2 คน บ้านที่อยู่อาศัยเดิมเป็นเพิงเล็กๆ มีสภาพชำรุดทรุดโทรม
ขณะเดียวกันก็หย่าร้างกับสามีมาหลายปี แถมยังทิ้งภาระหนี้สินให้ตามใช้หนี้เพียงคนเดียว อีกทั้งลูกสาวก็มีโรคประจำตัว คือหอบหืด เวลาอากาศหนาวอาการจะกำเริบ จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ทำให้ตนเองออกไปประกอบอาชีพไม่ได้เต็มที่ และยังมีค่าใช้จ่ายในการรักษาลุกสาวเป็นจำนวนมาก โดยนายประกาศ สีคะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 เห็นลูกบ้านมีความลำบากแสนสาหัส จึงนำเรื่องเสนอต่ออำเภอ และลงตรวจสถานที่จริงจึงมีมติดำเนินการปรับปรุงก่อสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมา โดยได้รับความร่วมมือร่วมแรงจากหน่วยงานและภาคเอกชนจนแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย
น.ส.อุธรณ์พร้อมด้วยลูกชายคนโต ด.ช.ไม้เมือง รักษา อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 และ ด.ญ.นันทิยา รักษา อายุ 7 ปี อยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านผึ้ง กล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ โดยเล่าว่าพบรักกับอดีตสามีที่กรุงเทพฯ จนมีลูกด้วยกันสองคน ก่อนจะอพยพครอบครัวมาอาศัยที่ดินของย่าทวดปลูกกระต๊อบอยู่ ลักษณะยกพื้นสูงฝาบ้านใช้วัสดุที่หาง่าย เช่น ไม้ไผ่มาตีกั้น แต่ไม่สามารถบังลมและฝนได้
เวลามีฝนตกน้ำจะหยดจากหลังคาลงมา ต้องคอยย้ายที่นอนรอจนกว่าฝนหยุดจึงเช็ดถูพื้นหลับนอนต่อ ภายหลังสามีไม่ยอมทำงานกินเหล้าเมายาตนจึงขอแยกทาง โดยเอาลูกทั้งสองไว้ดูแล แต่อดีตสามีไปสร้างหนี้สินไว้หลายแห่ง เจ้าหนี้ตามมาทวงบ่อยครั้ง จึงออกรับจ้างทั่วไปมีรายได้วันละ 100 บาท บางวันไม่ได้เพราะต้องคอยดูแลลูกสาวที่ป่วย
หลังจาก น.ส.อุธรณ์เล่าเรื่องราวให้คนมาในงานฟัง ทำให้หลายคนถึงกับน้ำตาซึม ให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามกำลัง และ นางฉวีวรรณ ธรรมชาติ อายุ 75 ปี กรรมการเหล่ากาชาดฯ ยื่นมือเข้าช่วยเหลือด้วยการให้ น.ส.อุธรณ์ไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาด พร้อมดูแลการศึกษาแก่เด็กทั้งสอง ขณะที่ผู้ใจบุญรายอื่นบริจาคถังออกซิเจนให้ไว้ใช้ในเวลาลูกสาวมีอาการหอบหืดกำเริบ โดยเด็กลูกๆ ของ น.ส.อุธรณ์กราบขอบคุณ และจะตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: