นครพนม – จากกรณี น.ส.อรรจจิมา ศรีชนม์ หรือวงแหวน อายุ 53 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าตึกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ และ wond center รพ.นครพนม ได้แจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพที่แฮกเฟซบุ๊กและไลน์หลอกยืมเงินคนรู้จักถึง 38 ราย เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.62 เวลาประมาณ 12.11 น. มีเพื่อนหลายคนทั้งในที่ทำงานและต่างจังหวัด โทรศัพท์มาสอบถามตนว่า มีการทักไลน์เพื่อไปขอยืมเงินจำนวนหลักหมื่นถึงหลักแสน โดยมีเหยื่อหลงเชื่อจำนวนมาก
น.ส.นภัทร อินทร์ติยะ หรือแหลม พยาบาลวิสัญญี รพ.นครพนม ซึ่งตกเป็นเหยื่อแก๊งแฮกไลน์ เปิดเผยสาเหตุที่โอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่แฮกไลน์ของน.ส.อรรจจิมา ว่า เนื่องจาก น.ส.อรรจจิมาฯ ได้เปิดคลินิกทำแผลให้คนไข้นอกเวลาราชการด้วย แต่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอยู่ใน รพ.นครพนม นั้น บางครั้งมีผู้แทนยาหรือดีเทลมาเก็บบิล ก็ไม่สามารถจะทิ้งคนไข้ได้ จึงจะมักโทรศัพท์ให้ตนดำเนินการโอนเงินให้ก่อนเสมอ แต่ส่วนมากจะโอนให้คราวละไม่เกิน 10,000 บาท สูงสุด 12,000 บาทเท่านั้น
ดังนั้น วันที่มิจฉาชีพแฮกไลน์ของ น.ส.อรรจจิมาทักให้ตนโอนเงิน จึงไม่คิดเอะใจจึงรีบโอนให้ทันที มาเริ่มสงสัยตอนที่คนร้ายขอเพิ่มอีก 20,000 บาท เพราะเพื่อนร่วมงานไม่เคยให้โอนเงินมากถึงขนาดนี้ จึงขับรถออกจากบ้านพักมาถาม ถึงรู้ว่าโดนแฮกไลน์ จึงอยากให้คนที่ดูข่าวนี้อย่าชะล่าใจเหมือนตน ให้เช็ครายละเอียดจากปากต่อปากจริงๆแล้วค่อยโอน ซึ่งก่อนโอนตนก็พยายามจะโทรถาม น.ส.อรรจจิมา แต่ติดต่อไม่ได้ เลยคิดว่าคงยุ่งกับงานจึงโอนไปเข้าบัญชีคนชื่อดุสิต พ่วงบุญ ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ซึ่งในการโอนนั้นไม่ได้ระบุว่าอยู่สาขาไหน มีแค่ชื่อกับหมายเลขบัญชีเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมี น.ส.พิมพ์ใจ ดีวงศ์ หรือเหมย ซึ่งมีคุณพ่อวัย 74 ปี ป่วยด้วยโรคไตวายระยะสุดท้าย จนมีแผลกดทับ ต้องลาออกจากงานประจำมาดูแล ระหว่างนั้นก็ได้รู้จักกับ น.ส.อรรจจิมา เพราะเป็นพยาบาลที่ทำแผลกดทับได้ดี จึงนำคุณพ่อไปขูดเนื้อที่เป็นไขขาวๆที่คลินิก ภายหลังแผลบริเวณก้นกบคุณพ่อดีขึ้นมาก ตนจึงมาใช้บริการบ่อยๆจนมีความคุ้นเคยกัน
และขณะที่จะนำคุณพ่อไปเปิดเส้น เพื่อทำการรักษาโรคไตวายที่โรงพยาบาลจังหวัดอุดรฯ ก็มีไลน์ของ น.ส.อรรจจิมา ทักว่าต้องการเงินด่วนที่สุด ตนจึงไม่เอะใจคิดว่าพี่เขาคงมีความต้องการใช้เงินด่วน เบื้องต้นโอนไปให้ 4,000 บาท แต่ก็ทักมาอีกว่าอยากได้เพิ่มอีก 30,000 บาท ตนก็โอนให้ทันที ตอนหลังทักมาขอเพิ่ม เริ่มสงสัยจึงโทรศัพท์สอบถามถึงรู้ความจริงว่าโดนคนร้ายแฮกข้อมูลมาหลอก การที่จะนำคุณพ่อไปรักษาก็ต้องระงับไว้ก่อน เพราะต้องหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาล และเมื่อคุณพ่อทราบเรื่องก็ช็อค อาการทรุดหนักต้องมีเครื่องช่วยหายใจ และมีน้ำท่วมปอดแทรกซ้อน “บางครั้งพวกเขาอาจไม่คิดว่า เงินที่คุณหลอกไปนั้น อาจจะมีความหมายกับคนอีกหนึ่งชีวิตมาก” น.ส.พิมพ์ใจหรือเหมยกล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ น.ส.อรรจจิมาฯ ผู้โดนแก๊งมิจฉาชีพแฮกไลน์ เปิดเผยว่าเหตุที่กัลยาณมิตรหลงโอนเงินให้คนร้าย เพราะตนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ จนได้รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น จึงมีเพื่อนร่วมอาชีพรักใคร่ ไม่เว้นแม้ญาติคนป่วย เมื่อคนร้ายใช้ไลน์ตนทักไลน์ขอยืมเงิน กัลยาณมิตรก็ไม่รอช้าที่จะรีบโอนให้ โดยไม่รู้ว่าไลน์ตนถูกแฮก ตอนนี้รู้สึกเสียใจมากสงสารคนที่หลงกลโอนเงินไป แม้ตนจะโดนหลอกเสียเงินไป 20,000 บาท ก็ไม่เสียดาย เท่ากับเสียใจที่เพื่อนพลอยเดือดร้อนไปด้วย
