นครพนม – คืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจประกอบด้วย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม(กอ.รมน.ฯ) กองกำกับการสืบสวนจังหวัดฯ กองร้อยทหารพาน 2102 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) กองทัพเรือ มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ) และอาสาสมัคร(อส.)นครพนม สนธิกำลังบุกเข้าจับกุมตัว ร.ต.อ.ชัยณรงค์ อ่อนภูธร หรือผู้กองอ้วน อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดนครพนม ในบ้านเลขที่ 51 ซอยสมพรแฟรงค์อุทิศ โรงเรียนเทศบาล 5 ถนนสารภาณนิมิต ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 3 มัด จำนวน 5,600 เม็ด กัญชาแห้งอัดแท่ง 9.5 กก. เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค. หลังเจ้าหน้าที่บันทึกการจับกุมที่ กอ.รมน.จว.นครพนม เสร็จเรียบร้อย จึงนำตัวผู้กองอ้วนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินการส่งฝากขังตามลำดับ โดยผู้กองอ้วนมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม จึงสั่งสิบเวรเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงผู้ต้องหาจะทำร้ายตัวเอง และให้ปฏิบัติเหมือนผู้ต้องหาทั่วไป
ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งด่วนให้ ร.ต.อ.ชัยณรงค์ อ่อนภูธร ผู้ต้องหาค้ายาบ้าออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งมีเพื่อนตำรวจสืบสวน แวะมาเยี่ยมในห้องขัง และสอบถามที่มาที่ไปถึงกรณีค้ายาบ้า ผู้กองอ้วนจึงเปิดปากบอกกับเพื่อนๆว่า ประมาณ 2 เดือน เจอสาววัยรุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เข้ามาตีสนิทกับตน และมีสัมพันธ์กัน ภายหลังสาวคนดังกล่าวมักจะนัดให้ไปหาที่พื้นที่ อ.ธาตุพนม เสมอ ก่อนถูกจับกิ๊กสาวชวนไปหลับนอน และได้ยื่นถุงพลาสติกทึบให้ โดยอ้างว่าฝากไปส่งให้เพื่อนหน่อย ตนก็ไม่ได้เปิดดูว่าในนั้นเป็นอะไร กระทั่งมีสายลับโทรศัพท์มาขอรับถุงพลาสติกดังกล่าว ตนจึงบอกให้มาเอาที่บ้าน จึงโดนจับกุมดังกล่าว
ในขณะที่ชุดจับกุมเผยว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรพิสูจน์กันในศาล อีกอย่างยาบ้าจะมีกลิ่นฉุนรุนแรง ผู้ต้องหาอยู่ฝ่ายสืบสวนไม่น่าเชื่อว่าจะไม่รู้จักกลิ่นยาบ้า เพราะต้องคลุกคลีกับยาเสพติดเหล่านี้ประจำ
นอกจากจะตรวจค้นบ้านพบกัญชาแห้งอักแท่งอีก 9.5 กก.แล้ว ยังพบอาวุธปืนเซกาเซ่ เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 ม.ม. จำนวน 41 นัด ซุกซ่อนอยู่บริเวณเล้าไก่ข้างบ้าน จึงเก็บไว้ตรวจสอบ
วันที่ 7 พ.ค. เวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ไพโรจน์ ลอดคูบอน รอง ผกก.สส.กก.จว.นครพนม นำเจ้าหน้าที่แผนกสรรพาวุธมณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) จ.ส.อ.พงษ์ศักดิ์ นิระเคน ตำแหน่งนายสิบการกระสุน จ.ส.อ.ชิณกรณ์ ก้านมะลิ ตำแหน่งนายสิบสรรพาวุธ ขอตรวจสอบอาวุธปืนเซกาเซ่ และกระสุนปืนกลที่ตรวจยึดจากบ้านผู้กองอ้วน เนื่องจากปืนเซกาเซ่มีแหล่งผลิตอยู่ในโซเวียต ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าขุดเจอในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ในสมัยมีการสู้รบ และนำมาเก็บสะสมไว้
ส่วนกระสุนปืนกลเป็นแบบชนิดสายพาน ผลิตในประเทศอเมริกา ในสงครามเวียดนามนิยมใช้กับอาวุธปืนกลเบา M 60 หรืออาวุธปืนอาก้า อานุภาพรุนแรงยิงทะลุต้นไม้ได้ การมาตรวจสอบเพราะต้องการทราบว่าหลุดมาจากหน่วยงานไหน เนื่องจากผู้กองอ้วนก่อนจะมาเป็นตำรวจ เมื่อปี พ.ศ.2524 เคยเป็นทหารเกณฑ์ ต้องตรวจสอบว่ามีการนำออกจากคลังอาวุธได้อย่างไร
ด้านเพื่อนตำรวจของผู้กองอ้วนนายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) เผยว่า ปกติผู้กองอ้วนจะเป็นคนอารมณ์ดี ชอบพูดตลกโปกฮา เมื่อทราบข่าวว่าพัวพันกับยาเสพติด หลายคนรู้สึกช็อค แทบไม่เชื่อว่าคนที่เหลืออายุราชการแค่ 5 เดือน จะคิดสั้นค้ายาเสพติดเพราะผู้หญิง
