นครพนม – วันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ที่เรือนจำกลางนครพนม นายจรูญ เหง่าลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม เป็นประธาน นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ตลอดจนผู้ต้องขัง จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสร้างจิตสำนึกให้ผู้ต้องขัง มีความรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อพ้นโทษไปให้เป็นคนดีของสังคม ไม่กระทำผิดซ้ำ
โดยเริ่มประกอบพิธี ถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา พร้อมกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน ว่า จะเป็นคนดีของสังคม มีความซื่อสัตย์สุจริต ต่อตนเองและผู้อื่น
จากนั้น ผู้ต้องขังกว่า 2,000 คน ได้ร่วมกัน น้อมใจ แปรอักษรถวายพระพร เป็นอักษรตัวเลข 10 ไทย หมายถึงรัชกาลที่ 10 รวมถึงการแปรอักษรเป็นตัวหนังสือ “ทรงพระเจริญ เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม” สื่อถึงความจงรักภักดี และน้อมถวายพระพร แด่ในหลวงรัชกาลที่ 10 สร้างความปลาบปลื้มให้กับเจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ต้องขัง เป็นอย่างมาก ที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และแสดงออกถึงความจงรักภักดี
นายจรูญ เหง่าลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางฯ เปิดเผยว่า ทางเรือนจำได้ให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ ทั้งในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รวมถึงช่วงปกติ ได้มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ผู้ต้องขังในเรือนจำที่มีมากกว่า 4,500 คน ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดี รวมถึงปลูกจิตสำนึกให้ผู้ต้องขัง รักหวงแหน ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กลับตัวเป็นคนดีของสังคม ซึ่งทางเรือนจำได้มีการนำผู้ต้องขัง ร่วมกิจกรรม ทำความดีเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งจิตอาสา พัฒนาสถานที่สำคัญ การช่วยเหลืองานสังคม
นอกจากนี้ภายในเรือนจำยังได้มีการ สอดแทรกการส่งเสริมอาชีพ ภายใต้โครงการเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการส่งเสริมอาชีพด้านต่างๆ ให้ผู้ต้องขังได้มีอาชีพสุจริต สร้างรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี และไม่เป็นภาระของสังคม ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการสร้างจิตสำนึก ให้ผู้ต้องขัง ได้ทำความดี และมีโอกาสที่จะได้รับการอภัยโทษ
“ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้ เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม มีผู้ต้องขังได้รับการอภัยโทษ ประมาณ 100 คน ซึ่งจะมีพิธีปล่อยตัวในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ปัจจุบันมีผู้ต้องขังมากกว่า 4,500 คน ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติด ร้อยละ 90 แต่ทางเรือนจำยังสามารถดูแลได้ อีกทั้งจะได้เร่งสร้างความเข้าใจ ปลูกจิตสำนึกให้ เป็นคนดี และไม่กลับมาทำผิดซ้ำอีก เป็นที่ยอมรับของสังคม ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน” นายจรูญฯกล่าว
