นครพนม – กรณี วันที่ 15 พ.ค.62 เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดนครพนมมีหมายนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา นางสาริกา คนฉลาด อายุ 71 ปี โจทก์ และ จำเลย นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน ชื่อนามสกุลเดิม นางสาวสุนภา เรืองสุวรรณ อายุ 58 ปี หรือที่รู้จักกันในนาม”เจ๊สุ” เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบชื่อดัง ในข้อหาเบิกความเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล โดยศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกเจ๊สุเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งเจ๊สุได้ประกันตัวมาต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา
คืบหน้าล่าสุด นางสาริกา คนฉลาด เดินทางมาศาลจังหวัดนครพนมตามหมายนัด พร้อมกับกลุ่มลูกหนี้ของเจ๊สุ ประมาณ 10 คน ที่มาฟังคำพิพากษา กระทั่งใกล้เวลาศาลฯออกนั่งบัลลังก์ ยังไม่เห็นเจ๊สุจำเลย มีเพียงทนายที่มายื่นใบรับรองแพทย์ 2 ฉบับ โดยจากคลินิกแพทย์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม และอีกหนึ่งฉบับเป็นของโรงพยาบาลเอกชนจังหวัดสกลนคร อ้างว่าเกิดอาการล้มป่วยกะทันหัน จึงขอศาลฯเลื่อนอ่านคำพิพากษาออกไปก่อน ซึ่งกลุ่มลูกหนี้ก็กล่าวว่า ไม่อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะครั้งอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เจ๊สุก็ใช้ลักษณะนี้ ซึ่งเป็นการซื้อเวลาตามช่องทางของกฎหมาย
โดยเนื้อหาที่ทีมทนายของเจ๊สุอ้าง ”จำเลยมีอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรงและมีอาการอาเจียนไม่สามารถทรงตัวหรือลุกขึ้นยืนได้ อันเนื่องมาจากความดันต่ำกะทันหันและอาการเครียดของสมอง จึงเข้าทำการรักษาตัวที่คลินิกแพทย์ในจังหวัดนครพนม แต่อาการไม่ดีขึ้น รุ่งขึ้นจึงได้ให้คนพาไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล… แพทย์ที่ทำการรักษา ได้ให้จำเลยที่ 1 นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดต่อไป ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ ที่แนบมาฯ ด้วยเหตุอันไม่อาจก้าวล่วงข้างต้นได้ ทำให้จำเลยที่ 1 ไม่สามารถเดินทางมาศาลตามกำหนด อันเนื่องจากความเจ็บป่วย และเพื่อให้โอกาสแก่จำเลยได้เข้าทำการรักษาตัวอย่างละเอียด จำเลยที่ 1 จึงขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปสักนัดหนึ่งฯ ให้เลื่อนคดีออกไปสัก 2 เดือน ฯลฯ”
ซึ่งในใบรับรองแพทย์คลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ลงวันที่ 13 พ.ค.62 ระบุว่า น.ส.สุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน พบว่าเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ส่วนที่โรงพยาบาลเอกชนจังหวัดสกลนคร ลงวันที่ 15 พ.ค.62 ระบุอาการเจ็บป่วยว่า มีอาการหลอดเลือดสมองและวิงเวียนศรีษะรุนแรง
นายภาณุพงศ์ เพชรเยี่ยม ทนายฝ่ายโจทก์ เห็นว่าการขอเลื่อนคดีออกไป 2 เดือน น่าจะมากเกินไปจึงคัดค้าน ซึ่งศาลจังหวัดนครพนมได้รับคำร้องของจำเลยส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาว่าจะเลื่อนตามคำร้องของจำเลยหรือจะพิจารณาลับหลัง และก็ได้รับความเมตตาจากศาลฎีกาให้เลื่อนอ่านคำพิจารณาไปเป็นวันที่ 5 มิ.ย.62 เวลา 09.00 น. หากจำเลยไม่มาตามนัดจะออกหมายจับต่อไป
ขณะเดียวกันนางสาวเปิ้ล(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นอดีตลูกน้องของเจ๊สุ ที่โดนหางเลขถูกศาลฯพิพากษาจำคุกเหมือนกับเจ๊สุ ได้ตั้งทนายของมาเพื่อยื่นเอกสารหลักฐานขอความเมตตาจากศาลฯ เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ตนไม่ได้แต่งตั้งทนายขึ้นมาสู้ทางกฎหมาย เพราะเชื่อว่าเจ๊สุจะไม่นำตนเข้าไปพัวพัน ที่มีหนังสือทวงหนี้กับลูกหนี้ ก็ทำตามคำสั่งของเจ๊สุเท่านั้น แต่กลับถูกเจ๊สุดึงตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงเห็นว่าเจ๊สุไม่มีความเป็นผู้นำที่ดีและทอดทิ้งลูกน้องจึงขอแยกฎีกาดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีนักกฎหมายเผยว่าเป็นเกมของทีมทนายฝ่ายจำเลย ที่จะประวิงเวลายืดการอ่านคำพิจารณาให้ยาวที่สุด ซึ่งเชื่อว่าวันที่ 5 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ จำเลยจะไม่มาศาลฯ โดยดูท่าทีว่าศาลฯจะพิจารณาออกมาในด้านไหน หากยกฟ้องก็แค่ปรับเงินประกัน แต่ถ้าตรงกันข้ามก็จะหลบซ่อนตัวสักระยะ ขณะเดียวกันก็จะคอยจังหวะว่าจะมีอภัยในเดือนไหน จากนั้นจำเลยก็จะมามอบตัวเข้าเรือนจำ โดยมีการมองไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนจำอีกด้วย ระหว่างนั้นมีอภัยถึงผู้ต้องขังที่รับโทษไม่เกิน 2 ปี จำเลยก็จะได้รับอภัยโทษทันที หรืออีกวิธีคืออาการเจ็บป่วย จำเลยสามารถขอพักโทษได้ ต้องขังจริงๆอาจจะไม่กี่เดือนเท่านั้น
