นครพนม – วันที่ 20 พ.ค.62 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ แสงสา รอง ผบ.ร้อย ตชด.236 หัวหน้าชุดปฏิบัติการณ์ รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า พบรถตู้ต้องสงสัยจากประเทศเพื่อนบ้าน พวงมาลัยอยู่ด้านซ้าย ขับเข้ามาจอดอยู่ริมแม่น้ำโขง บ้านสำราญใต้ หมู่ 3 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม แล้วมีคนทางประตูด้านขวาเดินมาเปิดฝาท้าย และมีคนขนลังวัตถุไม่ทราบชนิดขึ้นมาจากริมแม่น้ำใส่ไป จากนั้นคนขับก็ออกรถมุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) เจ้าหน้าที่จึงมาดักที่ปากทาง พร้อมส่งสัญญาณให้รถตู้คันดังกล่าวหยุดเพื่อตรวจค้น
ปรากฏว่าคนขับไม่ยอมจอด กลับเร่งเครื่องหลบหนี โดยมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เจ้าหน้าที่จึงขับติดตาม พร้อมวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน ดักสกัดรถตู้ต้องสงสัย ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวกำลังมีการขยายถนน แต่คนขับรถตู้ก็ไม่ยอมลดความเร็ว เหยียบคันเร่งหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนเข้าเขตพื้นที่อำเภอท่าอุเทน พอถึงทางสามแยกโรงพยาบาลท่าอุเทน คนขับเลี้ยวเข้าถนนที่ไปอำเภอโพนสวรรค์ ซึ่งบริเวณถนนเส้นนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน ตั้งจุดสกัดรอ พอรถตู้วิ่งมาก็ให้สัญญาณหยุดรถ คนขับเห็นว่าไปไม่รอดจึงต้องจอดรถ
บริเวณเก๋งด้านหน้าพบชายสองคน ทราบต่อมาว่าคนขับชื่อนายหว่อ วัน ถัง อายุ 39 ปี เป็นชาวเวียดนาม ส่วนผู้ที่นั่งมาด้วยเป็นคนไทยชื่อนายณรงค์ชัย ใจกล้า อายุ 57 ปี อาชีพขับสามล้อรับจ้าง บ้านเลขที่ 1 ซอยรุ่งเรือง ถนนพิทักษ์สันติ เขตเทศบาลเมืองนครพนม ด้านในตัวถังมีลังพลาสติก จำนวน 2 ลัง ยาวประมาณ 2 ฟุต สูงราว 30 ซม. ภายในมีนกไม่ทราบชนิดอัดแน่น เบื้องต้นค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่นเพิ่มเติม
แต่เพื่อความมั่นใจเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ประสานไปยัง พ.ต.อ.ณรัชต์พล เลิศรัชตะปภัสร์ นายด่านศุลกากรนครพนม ขอนำรถตู้สีขาว ทะเบียน กก 5009 คำม่วน เข้าเครื่องเอ็กซเรย์ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมติดต่อนายกฤษฎา สาครวงศ์ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่านครพนม นำเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ว่านกที่ถูกพบในรถตู้นั้นเป็นนกชนิดใด
ในเบื้องต้นนายหว่อ วัน ถัง รับสารภาพว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นรถเช่าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยอ้างว่ามีคนว่าจ้างในราคา 7,000 บาท ให้ขับรถมารับลังบรรจุนกไปส่งที่ สถานขนส่งผู้โดยสารนครพนม แต่เนื่องจากนกดังกล่าวเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะการนำเข้าสัตว์ที่มีชีวิตโดยไม่ผ่านการตรวจอย่างเป็นทางการ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย คนร้ายจึงใช้วิธีนำเข้าทางช่องทางธรรมชาติ โดยนายหว่อ วัน ถัง ขับรถตู้เช่าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 เวลาประมาณ 15.30 น. จากนั้นก็ไปหานายณรงค์ชัยคนขับสามล้อเครื่องที่ บขส.นครพนม ว่าจ้างให้มาช่วยขนลังใส่นกมาขึ้นรถบัสที่ บขส.
จากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. นายหว่อ วัน ถัง ก็ได้รับโทรศัพท์จากคนขับเรือข้ามฟากว่า ได้นำลังนกมาวางไว้ที่ริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านสำราญใต้ หมู่ 3 ต.อาจสามารถ นายหว่อ วัน ถัง จึงพานายณรงค์ชัยขึ้นรถมาขนลังนกเพื่อนำไปขึ้นรถบัสที่ บขส. แต่พอขับออกมาถึงปากทางเจอเจ้าหน้าที่ดัก จึงเปลี่ยนเส้นทางเบนหัวรถขับหลบหนีไปทางอำเภอท่าอุเทน กระทั่งไปจนมุมดังกล่าว
จากการเอ็กซเรย์ด้วยเครื่องมือของด่านศุลกากร ไม่พบสิ่งกำหมายเพิ่มเติม มีเพียงพาสสปอร์ตของประเทศเวียดนาม จำนวน 3 เล่ม สอบถามนายหว่อ วัน ถัง อ้างว่าผู้ดดยสารลืมไว้ ขณะทำการตรวจสอบรถอยู่นั้น มีโทรศัพท์ดังที่เครื่องของนายหว่อ วัน ถัง เจ้าหน้าที่จึงให้นายหว่อ วัน ถัง รับสาย ปรากฏว่าผู้ที่โทรมานั้นเป็นแม่ค้าขายนกสวยงามอยู่ที่ตลาดจตุจักร กทม. ถามว่านกจะมาถึงวันไหน นายหว่อ วัน ถัง บอกจะถึง กทม.ประมาณเที่ยงของวันที่ 21 พ.ค.62 จากนั้นแม่ขายคนนั้นก็วางสาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า กลุ่มนี้เป็นขบวนการลักลอบนำนกสวยงามเข้ามาฝั่งไทย ซึ่งอาจจะมีเชื้อโรคที่กำลังระบาดติดมา แต่นายหว่อ วัน ถัง อ้างเพิ่งทำเป็นครั้งแรก และได้ตรวจสอบประวัติพบว่านายหว่อ วัน ถัง เคยถูกจับในข้อหาลักลอบนำเข้ากระรอกมาในไทยแล้วครั้งหนึ่ง เหตุเกิด สภ.เมืองนครพนม จากนั้นก็กลับมาลักลอบขนนกสวยงามอีก ซึ่งระหว่างรายงานยังไม่ทราบว่านกดังกล่าวมีชื่อเรียกอย่างถูกต้องว่าอะไร หลังลงบันทึกการจับกุมแล้วก็นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่ง สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
