นครพนม – วันที่ 7 มิ.ย.62 เวลา 09.00 น. ภายในสถานีตำรวจท่องเที่ยวนครพนม 4 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2(ส.ทท.4 กก.1. บก.ทท.2) ว่าที่ พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.กก.1 บก.ทท.2 พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์ สว.ส.ทท.4 ฯ พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สารวัตร สถานีตำรวจน้ำนครพนม (สว.ส.รน.1 กก.10 บก.รน.) ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ แสงสา หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด.236 ร.ต.อ.จักรี สุระแสน รองสารวัตรตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครพนม(รอง สว.ตม.จว.ฯ) แถลงข่าวผลการจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) นายธนากร พาณิชชโลทร หรือกุ๋ย อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 46 หมู่ 8 ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,604 เม็ด
โดยวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.00 น. พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์ พร้อมชุดสายสืบตำรวจท่องเที่ยวฯ ออกตรวจพื้นที่ บริเวณบ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม พบชายต้องสงสัยมีท่าทีเดินพูดคนเดียว เหมือนอาการคนเสพยาบ้า จึงนำตัวมาสอบสวนจนมีสติกลับมา ชายคนดังกล่าวเผยว่าซื้อยาบ้ามาจากนายกุ๋ยหรือธนากร ในสวนยางพาราท้ายหมู่บ้าน ต.กุคุรุ อ.เมือง จ.นครพนม ชุดสายสืบจึงให้พาไปยังสวนยางพาราที่อ้างว่าซื้อขายกันบริเวณนั้น
พบนายกุ๋ยอยู่ในสวนยางนั้นจริง จึงขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.236,ตม.ฯ,ตำรวจน้ำ,และสายสืบ กองกำกับตำรวจภูธรฯนครพนม วางแผนปิดล้อมเพื่อตรวจค้น เจอนายกุ๋ยนั่งตาลอยอยู่ในกระท่อม ทราบภายหลังว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาได้ไม่นาน ค้นในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย มียาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุม
ชุดจับกุมเค้นสอบนายกุ๋ยว่ามียาบ้าอีกหรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี บอกว่าได้ซุกซ่อนยาบ้าอยู่ภายในสวนยาง โดยมียาบ้าซ่อนกระจายไปทั่วทั้งสวนยางพารา เช่นในกระปุกน้ำ ตุ๊กตาหมี ท่อซีเมนต์พักน้ำ และในถุงปุ๋ย เป็นต้น นำมานับได้จำนวนทั้งสิ้น 4,604 เม็ด จึงนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม
นายกุ๋ยสารภาพว่าเพพื้นเป็นคนเกิดที่บ้านกุรุคุแห่งนี้ ภายหลังมีเมียเป็นคนอยู่ อ.นาแก จึงย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่นั่น ต่อมาแม่ได้แบ่งมรดกให้จึงลงทุนปลูกยางพารา 1,200 ต้น จำนวน 22 ไร่ กระทั่งยางพาราโตจนได้กรีดขาย ตนจะกรีดคนเดียวทั้งสวน ส่วนเมียค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้าน อ.นาแก เริ่มเข้าสู่วังวนยาเสพติดเพราะเพื่อนที่มีสวนยางใกล้ๆกัน ชวนให้ทดลองเสพ อ้างจะทำให้ทำงานเพลินโดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ครั้งแรกซื้อยาบ้าจากเพื่อนในราคาเม็ดละ 150 บาท เสพวันละ 2 เม็ด ปัจจุบันเพิ่มเป็นวันละ 3 เม็ด
ต่อมาเพื่อนเห็นว่าตนต้องเสพทุกวัน จึงแนะนำให้ซื้อมาขายเลยดีกว่า แล้วมอบเบอร์โทรศัพท์นายทุนเอเย่นต์ยาบ้า อ้างว่าชื่อนายตา ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งนายตาให้ลองขายก่อน 200 เม็ด เมื่อหมดก็ค่อยนำเงินมาส่ง แล้วค่อยเอาล๊อตใหม่ไปขาย ทำแบบนี้มานานกว่า 2 ปี
ส่วนการส่งมอบยาบ้าและเงินค่ายา นายกุ๋ยอ้างว่าไม่เคยเห็นหน้านายตา ทุกครั้งจะติดต่อกันทางโทรศัพท์เท่านั้น หากจำหน่ายยาบ้าหมดก็จะโทรสั่ง นายตาจะเป็นคนพิกัดให้เอาเงินค่ายาไปวางไว้ที่ไหน เช่นป้ายบอกทางริมถนน หรือหลัก กม. เมื่อนายตาได้เงินก็จะโทรศัพท์มาบอกว่าตนให้ไปเอายาบ้าบริเวณไหน โดยส่วนมากนายตาจะเอาวางยาบ้าไว้แถวหลัก กม. หน้าทางเข้าสนามบินนครพนม สำหรับยาบ้าที่ถูกจับได้ เพิ่งไปรับมาสดๆ ร้อนๆ ที่หลัก กม. บริเวณทางโค้ง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (นครพนม-สกลนคร) แล้วนำมาแยกย่อยซ่อนไว้ในสวนยางของตน และเพิ่งเสพยาบ้าได้ไม่ทันไรก็ถูกเจ้าหน้าที่ตะครุบตัวดังกล่าว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในกระท่อมของผู้ต้องหา พบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่ง มีเมียผู้ต้องหาเป็นเจ้าของบัญชี มีรายการเงินเข้าออกจำนวนมาก และยังมีรถยนต์อีก 2 คัน จึงยึดไว้ตรวจสอบว่าได้มาอย่างไร หากชี้แจงที่มาที่ไปไม่ได้ ก็จะยึดทรัพย์เป็นของกลางทันที ส่วนนายตาที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเอเย่นต์ยาบ้า ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ว่าใช้อยู่ในพื้นที่ใด ก่อนจะส่งตัวนายกุ๋ยผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
