นครพนม – วันที่ 8 มิ.ย.62 นางสาว เกตุแก้ว พรมลา ประธานชุมชนหนองบึกทุ่ง ต.หนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม นำชาวบ้านในชุมชนร่วมใจกันออกพัฒนาภูมิทัศน์ เก็บขยะมูลฝอย และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย พร้อมแนะนำให้พี่น้องในชุมชน หันมาใส่ใจให้ความสำคัญกับโรคไข้เลือดออก ด้วยการดูแลไม่ให้มีลูกน้ำยุงลายภายในบ้านเรือนของตัวเอง ปรับปรุงบ้านเรือนให้สะอาด ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมโดยรอบบ้านเรือนไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรี ส่งพนักงานนำอุปกรณ์เครื่องตัดหญ้า เลื่อยไฟฟ้า อำนวยความสะดวก
นอกจากนี้ชุมชนหนองบึกทุ่ง โดยการนำของประธานฯหญิงแกร่ง ยังเตรียมนำร่องเป็นแห่งแรกใน 25 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อประกาศเป็นเขตปลอดถังขยะ ด้วยการรงณรงค์ให้คนในชุมชนทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง โดยในแต่ละซอยจะให้มีถังขยะเพียงจุดเดียว แล้วคัดแยกขยะเช่น เปียก แห้ง หรือขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลใหม่ได้ จากนั้นก็จะทำข้อตกลงกับเทศบาลเมืองนครพนม นำรถเก็บขยะมาขนไปทิ้งให้เป็นเวลา จะทำให้ชุมชนเกิดความสวยงาม ซึ่งมีการประชุมแล้วเสียงส่วนมากเห็นดีด้วย และประธานชุมชนจะทำให้เป็นรูปธรรมให้ได้ จึงเขียนโครงการดังกล่าวเสนอต่อผู้บริหารเทศบาลเมืองนครพนมพิจารณาต่อไป
ซึ่งโครงการเขตปลอดถังขยะของชุมชนหนองบึกทุ่งยังสอดคล้องกับจังหวัดนครพนม โดยทุกวันอาทิตย์ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.ฯ จะนำหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชนจิตอาสา สร้างการรับรู้ถึงปัญหาขยะมูลฝอย ให้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการคัดแยกขยะในครัวเรือนก่อนทิ้ง ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และงดใช้กล่องโฟมบรรจุอาหาร รวมถึงปลูกจิตสำนึกการลดปัญหาขยะในชุมชน และสร้างจังหวัดสะอาดน่าอยู่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว
โดยนายสยามฯ ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า ปัญหาขยะมูลฝอยไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อย แต่เป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาถึงกระบวนการจัดการขยะมูลฝอย พบว่าอัตราขยะมูลฝอยที่ถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีมีอัตราเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และกระบวนการคัดแยก การจัดเก็บรวบรวม การเก็บขนยังไม่มีประสิทธิภาพพอ ทำให้กลายเป็นปัญหาขยะตกค้างที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้จังหวัดนครพนมได้ให้ความสำคัญในการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนสำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกระบาดของจังหวัดนครพนม ปี พ.ศ. 2562 จากผลการสำรวจวันที่ 5 มิ.ย. พบมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกรวม 201 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ในพื้นที่อำเภอเมืองนครพนม แยกอำเภอที่มีผู้ป่วยสะสมอันดับแรกคือ ธาตุพนม 71 ราย รองลงมาได้แก่ท่าอุเทน 27 ราย และอำเภอนาแก 26 ราย ส่วนอำเภอที่ไม่พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกคือวังยาง สำหรับการกระจายการเกิดโรคไข้เลือดออกตามกลุ่มอายุส่วนใหญ่ พบในกลุ่มอายุ 5-14 ปี รองลงมาได้แก่กลุ่มอายุ 15-34 ปี อายุ 0-4 ปี และอายุ 35-59 ปี ตามลำดับ
คาดการณ์การเกิดโรคไข้เลือดออกในเดือนมิถุนายน 2562 มีแนวโน้มที่จะพบมากในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครพนม ปีนี้โรคไข้เลือดออกในภาพรวมประเทศ เริ่มสูงมากผิดปกติ และมีระบาดหนักในพื้นที่จังหวัดใหญ่ๆ อีกทั้งยังพบรายงานผู้เสียชีวิตมากเมื่อเทียบข้อมูลกับปีที่แล้วและปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดนครพนม นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้กำหนดดำเนินการดังนี้ เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขทุกอำเภอ ติดตามวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานผู้บังคับบัญชาทุกเดือน รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยสงสัยโรคไข้เลือดออกรายวัน เปิดการประชุมระดับจังหวัดทุกสัปดาห์(ในช่วงที่มีการระบาด) ให้คำแนะนำผู้ป่วยและแจกยาทากันยุงให้ผู้ป่วย และผู้ป่วยสงสัยไข้เลือดออกทุกราย จัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับชุมชนควบคุมไม่ให้โรคแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในพื้นที่ทุกอำเภอ รณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างต่อเนื่องและครอบคลุม จัด Big cleaning ทุกบ้าน ทุกพื้นที่ ทุกสัปดาห์ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ทั้งในชุมชนและสถานที่สำคัญโดยเฉพาะสถานศึกษา ประสานหน่วยงานท้องถิ่นดำเนินการเตรียมความพร้อม สื่อสารให้ประชาชนเกิดความตระหนักว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและควบคุมยุงในบ้านตนเอง หากมีไข้เกิน 2 วันไม่ควรซื้อยาทานเอง และไม่ฉีดยาลดไข้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เน้นย้ำและสื่อสารทุกคลินิก ร้านขายยา ห้ามขายและจ่ายยาให้ผู้ป่วยสงสัยไข้เลือดออก และแนะนำให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สื่อสารความเสี่ยงและแจ้งเตือนการระบาดในชุมชน ให้อาสาสมัครสาธารณสุขออกให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคไข้เลือดออกให้ประชาชนปฏิบัติตลอดช่วงฤดูฝน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: