นครพนม – วุ่นไม่เลิก ศาลปกครอง ชี้คำสั่ง ม.นครพนม พักงาน อดีตคณบดี วท.พยาบาล มิชอบ เจ้าตัวยัน ตกเป็นเหยื่อขัดแย้งภายใน ขอความเป็นธรรมคืนตำแหน่ง จ่อฟ้องอธิการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาความขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัยนครพนม( ม.นพ.) ยังวุ่นไม่เลิก หลังมีข่าวความวุ่นวายจากปัญหาขัดแย้งภายใน กรณี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ อดีตอธิการมหาวิทยาลัยนครพนม ได้ประกาศลาออก กลางงานรดน้ำดำหัว เทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าถูกบีบจากผู้มีอำนาจบางคน ถึงแม้เจ้าตัวจะยืนยันว่า เป็นความพอใจส่วนตัว ที่จะไปรับตำแหน่งใหม่
ต่อมาวันที่ 24 เมษายน 60 มีกรรมการสภา ม.นพ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ชักแถวลาออกเพิ่มประกอบด้วย 1.นายกฤช ฟอลเล็ต 2.ดร.สีภาภรณ์ บัวสาย 3.ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา 4.นายภักค์พงศ์ สุนทรโชติภัทร์ 5.นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ อดีต ผวจ.นครพนม และ 6.นายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม
และวันที่ 25 เม.ย. มีความเคลื่อนไหวของคณาจารย์ นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนจำนวนมาก นัดรวมตัวปกป้อง ม.นพ. โดยในมือต่างถือป้าย “เรามาเพื่อสันติ” ,”เราต้องการความสง่างามของนายกฯ” ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยมีการอ่านแถลงการณ์ ใจเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในขณะนั้น ลาออกจากตำแหน่ง หลังพบการบริหารขาดธรรมาภิบาล มีการแทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร
กระทั่งเดือนมีนาคม 2561 สภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้มีการสรรหา อธิการคนใหม่ และมีมติการสรรหาได้ ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม นั่งตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนมคนใหม่ แต่ปัจจุบันเวลาผ่านไปถึง 15 เดือน ทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ยังไม่มีการเสนอขอพระราชทานโปรดเกล้าฯ โดยยังไม่สามารถระบุเหตุผลได้
และหลังจากมีกลุ่มคณาจารย์ นักศึกษา ม.นพ. ออกมาเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 25 เมษายน นั้น ก็มีการเอาคืนคณาจารย์ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนก่อม๊อบดังกล่าวขึ้น โดยเฉพาะ ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร คณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม(ในขณะนั้น) ถูกตั้งกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังมีการข่คุกคาข่มขู่ขั้นเอาชีวิต และบีบให้เขียนใบลาออก ส่วนคณาจารย์คนอื่นยอมศิโรราบต่ออำนาจยอมถือขันธ์ 5 ไปกราบขมา เพื่อให้ตนเองมีหน้าที่การงานใน ม.นพ.ต่อไป จึงเหลือผู้ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์เพียง 2 ท่าน คือ 1.ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร และ 2.นายสมยศ สีแสนซุย อดีตคณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมศรีสงคราม ม.นพ.
ล่าสุด วันที่ 20 มิถุนายน 2562 ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร อายุ 46 ปี อดีต คณบดีวิทยาลัยพยาบาล มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ออกมาเปิดเผย เรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมไปยังสภามหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมนำเอกสารหลักฐาน คำสั่งศาลปกครองอุดรธานี ตามคดีดำหมายเลขดำที่ บ.65/2560 คดีหมายเลขแดงที่ บ.11 /2562 มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 มีประเด็นเนื้อหาสำคัญ ระบุว่า กรณีมหาวิทยาลัยนครพนม สั่งพักงานในตำแหน่งคณบดีวิทยาลัยพยาบาลถึง 3 ครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากปมขัดแย้ง กรณีมีนักศึกษา รวมถึงคณะอาจารย์ของมหาวิทยาลัยบางส่วน มีการเคลื่อนไหวคัดค้านการลาออกของ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิด กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง และทำให้องค์กรวุ่นวาย เสื่อมเสีย ทั้งที่ตนเคยยืนยัน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนเกิดปัญหาปานปลาย ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ขั้นสั่งพักงานไปจนถึงพักราชการ ถึงแม้ล่าสุดศาลปกครองสูงสุด จะมีคำสั่งเพิกถอนการพักงาน แต่ทางสภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อไป
ทั้งนี้ ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร ยังระบุอีกว่า สำหรับปัญหาดังกล่าว ตนถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามกฎหมาย รวมถึงทางสังคม ตกเป็นจำเลยสังคม ทั้งถูกพักงาน พักราชการ ไม่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน ส่งผลกระทบต่อครอบครัว มานานร่วม 2 ปี จากปมขัดแย่งภายใน ซึ่งตนยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมให้มีการตรวจสอบตามกระบวนการ หากทำผิดจริง ยอมรับผิด แต่ที่ผ่านมาตนเชื่อว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม มีคำสั่งพักงาน พักราชการ ไปจนถึงการสอบวินัยร้ายแรงรวมถึง 5 คำสั่ง อย่างไรก็ตาม ตนขอต่อสู้ขอความเป็นธรรม พร้อมได้มีการรวบรวมเอกสารหลักฐาน ดำเนินการฟ้องร้องกับบุคลเกี่ยวข้อง ตามเอกสารหลักฐานศาลปกครอง ที่มีคำสั่งเพิกถอน และได้ดำเนินการเอาผิดคนที่มีอำนาจในการออกคำสั่ง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 และขอความเป็นธรรมกับสภามหาวิทยาลัยนครพนม ให้มีการตรวจสอบแก้ไข ยืนยันขอต่อสู้ให้ถึงที่สุด และเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ ศ.สุนทร บุญญาธิการ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม คนใหม่ เพื่อขอความเป็นธรรม และหาทางแก้ไขเร่งด่วน
ด้าน ศ.สุนทร บุญญาธิการ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม เปิดเผยว่า หลังตนเข้ารับตำแหน่งต่อจาก นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนมคนเดิมที่ครบวาระไป ยอมรับได้รับทราบปัญหาความขัดแย้งภายใน ม.นพ. มานาน จนเกิดข้อร้องเรียนฟ้องร้องหลายเรื่อง ทั้งนี้ถึงแม้จะหนักใจในปัญหาความขัดแย้งภายใน แต่ตนพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา หากเป็นต้นเหตุจากความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช่การกระทำผิดกฎหมาย ก็จะมุ่งแนวทางไกล่เกลี่ย ปรองดอง ต่อจากนี้จะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เร่งแก้ไขปัญหาให้ ม.นพ. ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เชื่อว่าอนาคตมหาวิทยาลัยนครพนม มีจุดแข็งที่จะพัฒนาต่อเนื่อง และเป็นสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ จึงขอให้มั่นใจว่าตนจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ผ่านมา ให้เร็วที่สุด พร้อมจะให้ความเป็นธรรม ส่วนสำหรับกรณีที่มีบุคคล ร้องขอความเป็นธรรม ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมา เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้มหาวิทยาลัยนครพนมเดินหน้าต่อไป
ปัญหาการขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัยนครพนม หมักหมมมานานหลายปี ล้วนเกิดจากผลประโยชน์ทั้งสิ้น มีการฟ้องร้องกันไปมาไม่มีที่สิ้นสุด มีบุคคลหลายกลุ่มเข้ามาตั้งตนเป็นโบรกเกอร์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ล่าสุดมีวิทยาลัยสาขาหนึ่ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ม.นพ. ช่วงชิงผลประโยชน์จนผิดใจกัน ซึ่งวิทยาลัยสาขานั้นมีเงินหาย โดยไม่ทราบสาเหตุถึง 100 ล้านบาท ขณะที่ ป.ป.ช. และ สตง. เข้าไปขอตรวจสอบบัญชีดังกล่าวแล้ว
