นครพนม – วันที่ 25 มิ.ย.62 เวลา 13.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับบิ๊กตู่ ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย กลุ่มพื้นที่ 3 เทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก สร้างด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้านบาท วัตถุประสงค์ในการสร้างคือคัดแยกขยะในพื้นที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย อ.นาแก ธาตุพนม เรณูนคร และ อ.วังยาง รวม 19 แห่ง โดยเป้าหมายจะคัดแยกขยะมูลฝอย ออกจากขยะจุลินทรีย์ ก่อนนำไปทำปุ๋ยอัดเม็ดส่งขายในชุมชน ลดต้นทุนการเกษตร ซึ่งโรงงานคัดแยกขยะนี้ ตั้งอยู่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 ต.นาเลียง อ.นาแก บนเนื้อที่กว่า 70 ไร่ ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2554 หลังเดินเครื่องใช้งานได้แค่ 2 ปี ก็เกิดปัญหาที่ไม่เป็นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งเป้าไว้ ทางเทศบาลตำบลนาแก ได้สั่งหยุดเดินเครื่อง เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่คุ้มทุน ทำให้โรงงานคัดแยกขยะถูกปล่อยร้างมานานเกือบ 6 ปี มีหนังสือร้องเรียนตั้งแต่ระดับจังหวัดและส่วนกลาง ปัจจุบันยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร หลังเลือกตั้งมีการฟอร์มทีมรัฐบาลลงตัว ประชาชนจึงร้องเรียนนักการเมืองอีกครั้ง
ก่อนลงพื้นที่เพื่อป้องกันการกล่าวหาว่าก้าวก่าย นายมงคลกิตติ์ฯทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดนครพนม นายอำเภอนาแก และนายกเทศบาลตำบลนาแก ขอเชิญร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเทศบาลตำบลนาแก มีนายวิทยา แสงสุวรรณ นายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน นำคณะนายมงคลกิตติ์ตรวจรอบโรงงานคัดแยกขยะ และมีนายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก ตามมาสมทบ เบื้องต้นเครื่องจักรยังสามารถเดินเครื่องได้
นายวิทยาฯเปิดเผยว่าหลังสร้างเสร็จ ระบบการลำเลียงขยะไม่สมดุล สายพานดึงขยะขึ้นไปแล้วร่วงลงพื้นรวมแล้ววันละเป็นตัน ขณะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอ แม้ทางโรงงานจะได้ค่ากำจัดขยะตันละ 400 บาท วันหนึ่งมีขยะมากองรวมไม่ต่ำกว่าวันละ 20 ตัน ปรากฏว่าขาดทุนเดือนหนึ่งตก 1,000,000 บาท นายกเทศมนตรีคนเก่าพยายามกัดฟันสู้ สุดท้ายไปไม่รอด จำต้องปิดโรงงานคัดแยกขยะดังกล่าว สิ่งที่ตามมาคือปัญหาปริมาณขยะเพิ่มขึ้น และยังสร้างมลภาวะให้กับชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง เพราะต้องรองรับขยะจากพื้นที่ 4 อำเภอ วันละไม่ต่ำกว่า 20 ตัน ทุกวันนี้ทำได้แค่การฝังกลบ เนื่องจากเครื่องคัดแยกกำจัดขยะ ที่สร้างด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้าน ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เพราะระบบติดตั้งไม่สมดุล เครื่องไม่สามารถคัดแยกขยะได้จริง จึงเกิดปัญหาขยะล้น และเมื่อถูกปล่อยทิ้งร้างขาดคนดูแล ทำให้บ่อน้ำบำบัดด้านหลังกองขยะ กลายเป็นบ่อน้ำเน่าเสีย แหล่งเพาะพันธุ์ยุงและเชื้อโรคต่างๆ ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาเรียกร้อง เร่งแก้ไขเรื่องมลภาวะ เพราะมีปริมาณมากขึ้น และส่งกลิ่นเหม็น รวมถึงให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เร่งสอบสวน ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต
หลัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 จ.อุบลราชธานี ได้มีการเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุ และมีคำสั่งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2560 ชี้มูลว่า ใช้ประโยชน์ไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และไม่มีการใช้ประโยชน์ทั้งระบบ รวมทั้งไม่สามารถปรับปรุง หรือซ่อมแซมให้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ จนเป็นเหตุทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย พร้อมมีคำสั่งให้คืนเงินรวม 72 ล้านบาท พร้อมดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิด รวมทั้งอาญาและแพ่ง ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- 33 ปี ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก 13-22 ธันวาคม 67
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
ในมุมมองของนายมงคลกิตติ์เห็นว่า การเปิดประมูลในระหว่างปี 2550 เป็นต้นมา ใช้ระบบประมูลทาง e-Auction ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย เมื่อเห็นรายการเปิดประมูลแล้ว ยังไม่เชื่อว่าจะมีการฮั้วกัน เพราะผู้รับเหมาประมูลในราคาที่สูง ส่วนจะผิดขั้นตอนตรงไหน จะต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา เบื้องต้นอาจจะหาเอกชนเข้ามารับช่วงแทน แต่จะต้องแก้ไขระบบให้สามารถคัดแยกขยะได้จริงก่อน สำหรับการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด นายวิทยาฯนายกเทศมนตรีเผยว่าเรื่องส่งไปที่จังหวัดแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: