เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการภูธรจังหวัดนครพนม (บก.ภ.จว.) นายทินกร แสนเมืองโคตร อายุ 47 ปี กำนัน ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร หลานชายนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อดีตสามีครูจอมทรัพย์ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพแห่งหนึ่งในสกลนคร เป็นตัวแทนนายนิรันดร์เดินทางมายื่นหนังสือขอเลื่อนให้ปากคำกับพนักสอบสวนชุดคลี่คลายคดีครูจอมทรัพย์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียก ในข้อหาแจ้งความเท็จร่วมกับนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ โดยนายนิรันดร์เคยมาปรากฏตัวร่วมกับนายสุริยา หรือครูอ๋อง นวนเจริญ นายสับ วาปี นางจัน วาปี ภรรยานายสับ ที่ สภ.เมืองนครพนม ช่วงปี 2557 โดยมาแจ้งความไว้ว่านายเสริฐ รูปสะอาด เป็นคนขับรถชนคนตาย โดยกำนันทินกรแจ้งว่านายนิรันดร์ไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำในวันนี้ได้หลังจากรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะกับพนักงานสอบสวน ต่อมานายนิรันดร์แจ้งขอเลื่อนทางโทรศัพท์ แต่เจ้าพนักงานให้มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น จึงได้นำหนังสือดังกล่าวมาแจ้งขอเลื่อนให้ปากคำเป็นวันหลัง
ต่อมา นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายเรียกในข้อหาแจ้งความเท็จ เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งพร้อมกับนางทองเรศ วงศ์ศรีชา พยานผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์นางทัศนีย์ ประสบเหตุรถยนต์ชนนายเหลือ พ่อบำรุง ถึงแก่ความตาย บริเวณถนนสายธาตุน้อย-นาเหนือ บ.สร้างเม็ก หมู่ 7 ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2548 โดยนางทัศนีย์ยืนยันว่าให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวบุคคลทั้งสองเข้าห้องสอบสวนบนชั้น 4 อาคารแสงสิงแก้ว บก.ภ.จว.นครพนม กระทั่งเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางทัศนีย์ไปตรวจสุขภาพที่ ร.พ.นครพนม เนื่องจากอ้างว่าตนมีความจำไม่ค่อยดี เพื่อนำผลมาประกอบคำให้การ
ต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 12.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ รองประธานศูนย์รับเรื่องร้องเรียนผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม และเลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น(มตช.) มาให้ถ้อยคำกับ พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม กรณีรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ ซึ่งนายดิษเดช หิรัญจิรคุณ รองประธานกลุ่มธรรมาภิบาล ยื่นหนังสือถึง พอ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ผ่าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายมงคลกิตติ์ไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆแก่สื่อมวลชน
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 เวลา 14.20 น.พลเอก สำเริง พินกลาง อายุ 75 ปี ที่อยู่ 156/154 หมู่ 6 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย กรณีมีคนแอบอ้างชื่อ โดยผู้แจ้งเป็นประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) ซึ่งมีนายมงคลกิตติ์สุขสินธารานนท์ เป็นเลขาธิการ และเป็นเลขาธิการมูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น (มตช.) ต่อมาเมื่อต้นปี 2560 มีกรณีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ร้องขอรื้อฟื้นคดี โดยอ้างว่าตนเองตกเป็นแพะในคดีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นนายมงคลกิตติ์ ได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม(ศยธ.) แล้วเข้าไปช่วยเหลือครูจอมทรัพย์โดยอ้างว่าช่วยเหลือในนาม ศยธ. ต่อมาผลการพิพากษาคดีครูจอมทรัพย์ของศาลอาญาได้ยกคำร้อง และระบุว่ากระบวนการดังกล่าวกระทำไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อมาได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ตนเป็นที่ปรึกษาศูนย์(ศยธ.) ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยผู้แจ้งไม่ได้เป็นที่ปรึกษา และไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับศูนย์ (ศยธ.) แต่อย่างใด การดำเนินการของนายมงคลกิตติ์ไม่เกี่ยวข้องกับ ภตช.แต่อย่างใด จึงขอบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ นายสุริยา หรือครูอ๋อง นวนเจริญ อายุ 54 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 218/60 ลงวันที่ 24 พ.ย.60 ในข้อหาร่วมกันกับนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือศรีบุญหอม อายุ 54 ปี เพื่อนครูคนสนิท นำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล กรณีขอรื้อฟื้นคดี นางจอมทรัพย์ขับรถชนคนตาย และอั้งยี่ ซ่องโจร
หลังศาลจังหวัดนครพนมไม่อนุญาตให้ประกัน จึงถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำกลางจังหวัดนครพนม โดยมีนายเดชา แจ่มจันทร์ ผบ.เรือนจำฯ คอยกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบทุกขั้นตอน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดำเนินการบอดี้สแกนร่างกาย ตรวจสอบเอกสารอย่างครบถ้วน ก่อนจะควบคุมตัวไปยังแดน 1 ซึ่งเป็นแดนแรกรับชาย มีเจ้าหน้าที่พยาบาลประจำเรือนจำฯ ลงรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพ นายสุริยาหรือครูอ๋องแจ้งว่าป่วยเป็นโรคหืดหอบ แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์ เพราะนานๆจะมีอาการกำเริบที และจะซื้อยามาทานเอง
นายเดชาฯผบ.เรือนจำฯเผยว่า จากรายงานของพยาบาลระบุว่าครูอ๋องมีสุขภาพแข็งแรง ยังไม่พบอาการอื่นๆ จึงกำชับให้ผู้คุมแดนดังกล่าวหมั่นตรวจเช็คห้องขังทุกๆชั่วโมง การดูแลให้เป็นไปตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ในเช้าของวันที่ 29 พ.ย. ครูอ๋องกล่าวกับผู้คุมว่านอนไม่ค่อยหลับ เพราะยังปรับตัวไม่ได้ ช่วงสายต้องถูกตัดผมสั้นตามระเบียบผู้ต้องขังทั่วไป และตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง
