มุกดาหาร – ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมุกดาหาร- แขวงสะหวันะเขต ตรวจคัดกรองผู้ป่วยไข้เลือดออกที่เดินทางมากับเรือโดยสารทางท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 นายราวิท พิมพ์ศรี หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า ในช่วงนี้มีการระบาดของไข้เลือดออกทั้งฝั่งไทยฝั่งลาว ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเทียบเรือฯ ได้เฝ้าระวังผู้ป่วยที่เดินทางผ่านเข้ามาทางช่องทางท่าเทียบเรือ ได้ตรวจคัดกรองเป็นพิเศษ ถ้าผู้ป่วยต้องสงสัยก็จะส่งต่อไปที่โรงพยาบาลมุกดาหาร เบื้องต้นได้ชักประวัติ ตรวจร่างกาย วัดอุณหภูมิ ถ้าประวัติมีไข้สูง ทานยาไม่ลดให้สงสัยไว้ก่อนเป็นไข้เลือดออก และจะส่งต่อไปที่โรงพยาบาลมุกดาหาร มีห้องปฎิบัติการในการตรวจโรคไข้เลือดออก
เนื่องจากทางรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ( สปป.ลาว ) ประกาศเตือนเฝ้าระวังไข้เลือดออกทั่วประเทศ หลังพบผู้ป่วยกว่า 10,000 คน และเสียชีวิตจำนวน 27 คน นั้น ทางด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมุกดาหาร- แขวงสะหวันะเขต ได้ตรวจคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางมากับเรือโดยสารทางท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองมุกดาหาร เพื่อมาหาหมอที่โรงพยาบาลมุกดาหารในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ได้แก่ เด็ก และผู้สูงอายุ จากการตรวจคัดกรองผู้ป่วยในแต่ละวันทั่วไปพบเป็นไข้หวัด ปวดเมื่อยตามร่างกายและมาพบแพทย์ตามนัด
จากการสอบถาม ท้าวก๊อปปี้ ไซยะแสน ( KOPPY CHANTHASANE ) ชาวแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เปิดเผยว่า ตนเองไปเยี่ยมญาติเห็นชาวบ้านที่เป็นไข้เลือดออก มีเด็ก และผู้ใหญ่ ที่ไปหาหมอที่สุขศาลา (สถานีอนามัย) ได้สอบถามว่าเป็นไข้เลือดออก และในปีนี้ไข้เลือดออกมีคนเป็นจำนวนมากที่ลาวและมีคนเสียชีวิต ถ้าเป็นมากก็ข้ามมารักษาที่ประเทศไทย
ทั้งนี้จังหวัดมุกดาหารได้ติดตามการระบาดของโรคไข้เลือดออกปี 2562 ในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดมุกดาหาร ได้ประกาศให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข (EOC) ในระดับตำบล ระดับอำเภอและระดับจังหวัด โดยมีการประชุม ติดตาม การดำเนินงานควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก ในพื้นที่ ตำบล อำเภอ ตามมาตรการที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง 28 วัน หรือจนกว่าโรคสงบ พร้อมทั้งมอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร ในการให้ข้อมูลสถานการณ์โรคความรุนแรงและการสร้างความตระหนักรวมถึงความรู้เรื่องโรคไข้เลือดออกแก่ประชาชน โดยได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ดำเนินการจัดทำแผนร่วมกับผู้นำชุมชน หน่วยงานระดับตำบล อำเภอ จัดกิจกรรมรณรงค์ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อม ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และออกเทศบัญญัติ/ ข้อบัญญัติ ว่าด้วยการควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอีกด้วย..
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: