นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สะพานข้ามห้วยบังกอ บ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม มีความสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 9 เมตร ยาว 61 เมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างปี 2559 จำนวน 7,694,000 บาท สร้างเป็นทางเชื่อมทางจักรยานโดยห้ามรถยนต์แล่นผ่าน ซึ่งเคยพังถล่มมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าวัสดุที่ใช้ก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานกรมโยธาธิการและผังเมือง เหตุที่ทำให้สะพานพังถล่มเนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างเป็นดินรวนปนทราย ใต้ดินมีน้ำไหลซึมตลอด ทำให้เกิดการกัดเซาะ เสาไม่สามารถต้านทานแรงน้ำได้จึงพังลงมา
ต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จึงได้ฤกษ์ลงมือซ่อมแซมส่วนที่พังเสียหาย แล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคม แต่ยังไม่ได้ส่งมอบงาน และยังไม่เปิดให้ใช้งาน เนื่องจากยังไม่ได้เชื่อมต่อกับถนนเลียบเขื่อนริมแม่น้ำโขง เพราะยังมีนาของชาวบ้านขวางทางอยู่ ลักษณะของสะพานดังกล่าวจึงเป็นการสร้างจากฝั่ง ต.ท่าค้อ ข้ามพุ่งมาชนนาของชาวบ้าน รถยนต์แล่นผ่านไม่ได้ มีเพียงรถจักรยานยนต์หรือจักรยานของคนละแวกนั้นใช้ข้ามไปมา ขณะที่ถนนฝั่ง ต.ท่าค้อ ก็เป็นถนนเก่าที่ปิดไว้ เพราะมีสภาพพังถล่มมาหลายปีรอการสร้างใหม่
ล่าสุด วันที่ 12 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 19.00 น. สะพานข้ามห้วยบังกอที่เพิ่งซ่อมแซมเสร็จยังไม่ทันไร ก็พังถล่มลงมาอีกเป็นครั้งที่สอง และเสียหายหนักกว่าครั้งแรก ซึ่งนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ทราบจากรายงาน จึงสั่งให้นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม และนายศักดา บุณนะวงษ์ กำนันตำบลขามเฒ่า ลงมาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
นายป่ง ผาบุญ อายุ 54 ปี เป็นราษฎรบ้านกุดข้าวปุ้น อาชีพเกษตรกร เปิดเผยว่าหลังสะพานพังถล่มครั้งก่อน มีเสาปูนซิเมนต์ต้นหนึ่งเอียงจากการพังทลาย ภายหลังมีการซ่อมแซมผู้รับจ้างก็ไม่ได้แก้ไขเสาต้นดังกล่าว กลับนำแผ่นทางซิเมนต์สำเร็จรูปวางทับลงไป เมื่อสร้างเสร็จเพียง 3 เดือน เสาต้นนั้นมีความลาดเอนแต่เดิม รับน้ำหนักไม่ไหวจึงพังถล่มลงมา “เสียดายงบประมาณที่นำมาซ่อมแซม” นายป่งกล่าว
