นครพนม – คืบหน้า กรณีสะพานข้ามห้วยบังกอ ที่สร้างช่วงปลายสุดลำห้วยก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง บริเวณช่วงรอยต่อบ้านโคกไก่เซา ต.ท่าค้อและบ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม มีความสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 9 เมตร ยาว 61 เมตร พังถล่มลงมาเป็นครั้งที่สอง เมื่อคืนวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เจตนาในการสร้างสะพานเพื่อเป็นเส้นทางเชื่อมทางจักรยานหรือไบค์เลน โดยโครงการดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) เลียบริมแม่น้ำโขงเลาะลงทางทิศใต้ไปจนถึงอำเภอธาตุพนม รวมระยะทางประมาณ 60 กม. โดยสะพานแห่งนี้ ใช้งบประมาณการก่อสร้างปี 2559 จำนวน 7,694,000 บาท สร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 แต่ยังไม่ได้เปิดให้มีสัญจรไปมาแต่อย่างใด เนื่องจากเส้นทางจักรยานยังไม่เชื่อมต่อกัน จะมีเพียงชาวบ้านละแวกนั้นใช้สัญจรไปมาสวนไร่นาเท่านั้น
หลังสร้างเสร็จเพียงแค่เดือนเดียว ปลายเดือนมิถุนายน 2560 สะพานข้ามห้วยบังกอแห่งนี้ ก็ได้พังถล่มลงมา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าวัสดุเป็นไปตามแบบ และมาตรฐานของกรมโยธาธิการฯที่ระบุไว้ ทั้งบริเวณรอยต่อเชิงสะพานไม่มีลวดตามที่เป็นข่าว เนื่องจากในแบบต้องการให้เกิดการยืดหยุ่นแรงกระแทก เพื่อให้น้ำหนักกระจายตัวอย่างอิสระ ลดการเสียดทาน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้สะพานทรุดตัวนั้น อ้างว่าบริเวณก่อสร้างเป็นดินรวนปนทรายและพบว่าใต้ดินมีน้ำไหลซึมตลอดเวลา ทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรง ประกอบกับช่วงก่อนสะพานพังถล่มมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน น้ำในห้วยบังกอจึงไหลเชี่ยวกราก และเกิดดินสไลด์ตัวเป็นแนวยาวประมาณ 7- 8 เมตร มีความลึกชันประมาณ 5 เมตร จึงเป็นเหตุให้สะพานพังทลายลงมา แม้โครงสร้างจะมีความแข็งแรงตามแบบแปลนก็ตาม
”สำหรับขั้นตอนการสำรวจก่อนการก่อสร้างนั้น ทุกโครงการจะมีการสำรวจเจาะดินพิสูจน์ทั้งหมด แต่ช่วงที่สำรวจนั้นเป็นหน้าแล้งจึงไม่ทราบว่ามีน้ำไหลซึมอยู่ใต้ดิน โดยหลังจากนี้จะต้องมีวางแผนออกแบบให้สะพานสามารถรองรับน้ำใต้ดินได้ด้วย สำหรับงบประมาณในการซ่อมแซมอยู่ที่ประมาณ 800,00 บาท” ซึ่งเป็นคำชี้แจงของผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้เมื่อปี 2560 หลังสะพานพังใหม่ๆ
กระทั่งปี 2562 ก่อนที่จะลงมือซ่อมส่วนที่ชำรุดเสียหาย นายศักดา บุณนะวงษ์ กำนัน ต.ขามเฒ่า เคยท้วงติงผู้รับเหมาว่า มีเสาแถวหนึ่งที่อยู่กลางลำห้วยบังกอเอียง ควรจะทุบทิ้งแล้วทำใหม่ ซึ่งผู้รับเหมาอ้างไม่เป็นไร ฐานล่างยังมีความแข็งแรงอยู่ ซึ่งกำนันศักดาได้ถามกลับหากพังลงมาอีกจะทำอย่างไร แต่ผู้รับเหมาไม่ยอมตอบ สุดท้ายก็ดันทุรังซ่อมโดยไม่ยอมฟังเสียงท้วงติง และเพิ่งซ่อมเสร็จเพียง 3 เดือน ก็พังถล่มลงมาเมื่อคืนวันที่ 12 กรกฎาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
ล่าสุด วันที่ 15 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจเส้นทางไบค์เลนที่อยู่อีกฝั่ง คือบริเวณบ้านโคกไก่เซา ต.ท่าค้อ พบว่าทางไบค์เลนตั้งแต่สำนักงานชั่วคราวของ หจก.สำราญเจริญ ไปจนถึงสะพานที่พังถล่ม ระยะทางประมาณ 800 เมตร ยังไม่มีการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุด อบต.ท่าค้อ ได้นำแบริเออร์พลาสติกมาปิดกั้นเส้นทางดังกล่าวไว้ เนื่องจากไบค์เลนส่วนที่อยู่ติดขอบตลิ่งแม่น้ำโขง เกิดดินสไลด์ทรุดตัวจนเห็นรอยปริแยกแตกร้าวเป็นทางยาวหลายจุด โดยเฉพาะช่วงสะพานไบค์เลนข้ามห้วยยายสุนี คอสะพานทั้งสองด้านฝั่งริมแม่น้ำโขงพังถล่มเสียหาย นอกจากนี้ที่คอสะพานข้ามห้วยบังกอฝั่งบ้านโคกไก่เซา มีการยุบตัวของดินอย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านละแวกนั้นต้องหาสิ่งกีดขวางมากั้นไว้ ซึ่งในอนาคตหากมีฝนตกลงมาสะพานข้ามห้วยบังกอฝั่งดังกล่าวต้องพังทลายไม่ต่างจากฝั่งบ้านกุดข้าวปุ้นแน่นอน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับลุงเอ๊บ สำราญเจริญ ผู้มีประสบการณ์ในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังมากว่า 30 ปี เปิดเผยว่าสะพานข้ามห้วยบังกอทรุดตัวทั้งหมด ต้องทุบทิ้งทำใหม่ เพราะส่วนที่เหลือก็เอนหมดแล้ว และหัวหน้าก็ไม่ค่อยมาคุมงาน ซึ่งลุงเอ๊บได้พูดเตือนสติผู้ก่อสร้างว่า “ผมบอกได้เลยพวกที่ทำเขื่อนหรือพวกที่ทำสะพานก็เหมือนกัน บ้านนี้เป็นขององค์พระธาตุพนม ใครทำอะไรก็ได้ อยากได้เยอะก็ขี้โกงเอา โกงหลวงนั่น แล้วกลับไปคุณจะได้ใช้เงินไหม ส่วนมากมันจะไม่ได้ใช้”
โดยจังหวัดนครพนม ได้ดำเนินการก่อสร้างเส้นทางจักรยานหรือไบค์เลน เชื่อมแลนด์มาร์ค สำคัญ คือ สามที่สุด ประกอบด้วย ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือองค์พระธาตุพนม สวยที่สุดคือสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) และงามที่สุดคือบรรยากาศสองฝั่งโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนมซึ่งหลังสร้างเสร็จจะมีเส้นทางจักรยานที่เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขงยาวที่สุดของไทย เริ่มจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) เชื่อมไปยังตัวเมืองนครพนม เลียบเลาะริมแม่น้ำโขง ได้ชมความสวยงามทัศนียภาพสองฝั่งไทย-ลาว จนถึง อ.ธาตุพนม ที่ตั้งขององค์พระธาตุพนม หากสร้างเสร็จจะเป็นเส้นทางอะเมซิ่งไทยแลนด์ ที่ประชาชน นักท่องเที่ยว สามารถปั่นจักรยานยนต์ เที่ยวชมบรรยากาศสองฝั่งโขง และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครพนม รวมระยะทาง 60 กิโลเมตร ถือเป็นเส้นทางจักรยานที่น่าสนใจแห่งเดียวของไทย ที่จะดึงดูดประชาชน นักท่องเที่ยว มาเที่ยวชม เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว รองรับเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ และประตู่สู่อาเซียน
แต่น่าเสียดายโอกาส เพราะนครพนมกำลังบูมสุดๆในการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการปั่นจักรยาน ต้องมาสะดุดจากการพังถล่มของไบค์เลน เริ่มจากต้นเดือนกรกฎาคมไบค์เลนเฟส 2 พังเสียหายรวม 2 จุด เป็นระยะทางประมาณ 70 เมตร ขณะที่ไบค์เลนเฟส 1 เสาตอม่อถูกดินตะกอนซัดขาด 2 ต้น ทางจังหวัดจึงต้องปิดชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้าง ผ่านมาอีก 2 อาทิตย์ สะพานข้ามห้วยบังกอที่สร้างเชื่อมทางไบค์เลน ก็พังถล่มเป็นครั้งที่สองอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: