นครพนม – คืบหน้า กรณีชาวบ้านปากบัง หมู่ 2 ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่ปี 2551-52 จำนวน 230,000 บาท โดยมีเป้าหมายใช้เป็นกองทุนสำรองไว้ให้เกษตรกรในหมู่บ้านกู้ยืมไปซื้อปุ๋ยหว่านนาข้าว ครัวเรือนละ 2,000 บาท มีกติกาส่งคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาท ภายใน 1 ปี แต่เมื่อปี 2559 เป็นต้นมา เงินจำนวนดังกล่าวได้ล่องหนสาบสูญไป ชาวบ้านไม่สามารถกู้ยืมมาเป็นทุนเหมือนที่ผ่านมา สอบถามเหรัญญิกผู้เก็บเงินก็บ่ายเบี่ยงที่จะให้คำตอบ จนชาวบ้านอดรนทนไม่ไหวจึงร้องเรียนผู้สื่อข่าวดังกล่าว
หลังเป็นข่าววันที่ 23 กรกฎาคม 2562 คณะกรรมการโครงการ SML จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายทน บุสดี นายต้อม ศรีบุญเรือง นายเวียงชัย บุสดี นายวัฒนา ไชยต้นเทือก นายคำฟอง พ่ออามาตย์ และนายประมวล บุสดี เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสรรพชัย วัฑฒก์ กบิลพัฒน์ ปลัดอำเภอ และหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมนาแก ใจความว่า คณะกรรมการ SML ได้ประสบปัญหาในการบริหารเงินฯ ด้วยนายประเวศ วงค์ตาโสม ตำแหน่งเหรัญญิกได้นำเงินไปใช้โดยไม่ผ่านคณะกรรมการเห็นชอบ ต่อมาไม่มีเงินจะใช้บริหารต่อ การแจ้งยอดก็ไม่เคยรายงานผลต่อคณะกรรมการ เมื่อติดตามทวงถามก็ยอมรับว่านำไปใช้ส่วนตัว และอ้างว่าจะนำเงินมาคืนแก่กองทุนฯ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เห็นเงินจำนวนดังกล่าว จึงทำให้กองทุนฯได้รับความเสียหาย พวกตนในนามคณะกรรมการจึงร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ฯ
ล่าสุด วันที่ 26 กรกฎาคม 2562 เพื่ออำนวยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และหาข้อยุติปัญหา นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก มีหนังสือที่ นพ 0318/2602 ถึงนายประเวศ วงค์ตาโสม เหรัญญิกผู้ดูแลเงินกองทุน SML ให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ในวันที่ 31 กรกฎาคม นี้ เวลา 09.00 น. ณ ห้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนาแก ขณะเดียวกันก็มีหนังสือ นพ 0318/2603 ถึงคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน SML บ้านปากบัง หมู่ที่ 2 ต.พิมาน มาร่วมให้รายละเอียดในวันและเวลาเดียวกันอีกด้วย เพราะทุกคนล้วนเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน น่าจะมีบทสรุปตกลงกันได้
ต่อมานายทน บุสดี หนึ่งในหกคณะกรรมการฯ เผยหลังรับหนังสือจากทางอำเภอนาแก ว่า หากได้ข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเสนอให้สรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนชุดเก่า เพราะชาวบ้านไม่ไว้วางใจคณะกรรมการชุดปัจจุบันนี้แล้ว นานถึง 3 ปี ที่ผู้บริหารบางคนนำเงินกองทุนไปใช้ส่วนตัว
ขณะที่นายสรรพชัยวัฑฒก์ กบิลพัฒน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมฯนาแก เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้นจะให้คณะกรรมการพูดคุยกันก่อน โดยนายประเวศผู้ถูกกล่าวหาจะต้องนำบัญชีรายรับ รายจ่าย ตั้งแต่ปีที่ได้รับเงินกองทุนฯมาชี้แจงในที่ประชุม เมื่อได้ข้อสรุปชัดเจนก็จะลงนามในข้อตกลงนั้น ว่าจะนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนกองทุนฯได้เมื่อไหร่ หากยังไม่ส่งคืนตามวันที่กำหนด ขั้นตอนต่อไปก็จะแจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหายักยอกทรัพย์
