นครพนม – เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2561 ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 สั่งการให้ พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 237 อ.ท่าอุเทน ประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.นที สิริวราวัชร์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยทหารพราน 2107 แถลงข่าวการจับกุม 3 ผู้ต้องหาคือ นางสาว อาภรณ์ รัตนกรณ์ อายุ 44 ปี หมู่ 2 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน นายกิติพงษ์ นามพทาย อายุ 21 ปี หมู่ 6 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน นายทวนทอง แสงสุวรรณ อายุ 26 ปี หมู่ 12 ต.หนองแวงใต้ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พร้อมของกลางยาบ้า 6 มัด 69 ถุง นับได้จำนวน 13,783 เม็ด รถกระบะโตโยต้าสีบอร์น ทะเบียน ผช 3219 สงขลา 1 คัน ได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม พร้อมตรวจยึด บัญชีธนาคาร บัตร ATM เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท รถจักรยานยนต์อีก 3 คัน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบส่งยาบ้าจำนวนมากในรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่ อำเภอศรีสงคราม จึงได้วางกำลังไว้ใกล้บริเวณดังกล่าว จนกระทั่งได้มีรถกระบะวิ่งเข้ามาในรีสอร์ท ลักษณะตามที่สายลับรายงานเข้าไปจอดหน้าห้องพักหมายเลข 36 มีชายคนหนึ่งลงจากรถเดินเข้าไปในห้อง พร้อมถือถุงพลาสติกออกมาขึ้นรถ แล้วได้ขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตามรถคันดังกล่าวและได้ส่งสัญญาณให้จอดเพื่อขอตรวจค้น ซึ่งมีนางสาว อาภรณ์ รัตนกรณ์ อายุ 44 ปี เป็นคนขับ นายกิติพงษ์ นามพทาย อายุ 21 ปี นั่งข้างคนขับ และนายทวนทอง แสงสุวรรณ อายุ 26 ปี นั่งโดยสารมาด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบยาบ้าของกลางวางอยู่บริเวณพื้นรถที่วางเท้าใต้เบาะที่นั่งด้านข้างคนขับห่อใส่ถุงพลาสติกข้างในห่อหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลืองเป็นแท่งสี่เหลี่ยม จำนวน 2 ก้อน/แท่ง มีอักษร Y 1 และหมายเลข 999 ประทับไว้ด้านหน้าของแท่งสี่เหลี่ยมสีเหลืองดังกล่าว โดยมีเทปกาวใสและเทปกาวสีดำพันห่อหุ้มด้านนอกไว้อีกชั้นจึงได้นำของกลางและผู้ต้องหามาตรวจสอบที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน อย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการตรวจนับยาบ้า บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้าชนิดกดปิดเปิดปากถุง จำนวน 69 ถุงนับรวมได้ จำนวน 13,783 เม็ด ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับจ้างจากนายทุนให้นำยาบ้าดังกล่าวไปส่งที่จังหวัดตอนในซึ่งได้ค่าจ้างคนละ 10,000 บาท ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ต่อมาเจ้าที่ได้ทำการเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาพร้อมยึดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม รถจักรยานยนต์ 3 คัน เพื่อตรวจสอบหาที่มาของทรัพย์สินดังกล่าว และได้นำของกลางพร้อมผู้ต้องหา ส่ง สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
