นครพนม – คืบหน้า ชาวบ้านห้วยพระ หมู่ 9 และหมู่ที่ 14 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถูกเจ้าหน้าที่ที่ดิน ร่วมมือกบนายทุนคนต่างถิ่นใช้อำนาจเงินเล่นแร่แปรธาตุ บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ทั้งทุ่งเลี้ยงสัตว์ และลำห้วย ตลอดจนรุกล้ำที่ดินทำกินนับพันไร่ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเรื่องดังกล่าวยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี ชาวบ้านเดินสายยื่นเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน แต่ทุกอย่างกลับเงียบเชียบราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่นายทุนหลังมีเจ้าหน้าที่รัฐคอยแนะนำ ก็เหิมเกริมเดินหน้าบุกรุกที่ดิน โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยึดเอาแม้กระทั่งถนนทางหลวงชนบท เมื่อมีการสอบถามก็โบ้ยให้ไปคุยกันเอง ชาวบ้านจึงจับมือกันลุกขึ้นสู้ต่ออธรรมและอำนาจเงิน พร้อมใจกันร้องเรียนหน่วยงานที่คาดว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อพวกตนได้
ยิ่งตรวจสอบก็พบความไม่ชอบมาพากลเพิ่มขึ้น ประจานความฉ้อฉลที่คนของรัฐกระทำกับคนยากจน เมื่อพบว่าการออกโฉนดที่ดินประเคนให้นายทุนนั้น มีการเร่งรัดรวบรัดให้ได้มาซึ่งความถูกต้องทางกฎหมาย จากนั้นก็ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขับไล่ให้ออกจากที่ ชาวบ้านสู้ก็แพ้เพราะมีเจ้าหน้าที่ที่ดินรับอาสาเป็นพยานฝ่ายโจทก์ เบิกความอันเป็นประโยชน์ต่อนายทุน ชาวบ้านจึงถูกพิพากษาให้แพ้คดี
เช่นกรณีของนายยศ สาเส็ง อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 123 หมู่ 9 บ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา ปัจจุบันพิการทางหูขั้นรุนแรง ต้องใช้เสียงตะโกนถึงจะได้ยินและเข้าใจ ได้ถือครองใบจองระบุออกให้วันที่ 6 สิงหาคม 2528 ทะเบียนเล่มที่ 2 หน้า 148 สารบบเล่มหมู่ที่ 9 เลขที่ 240 ภายหลังนำมาออกเป็น นส.3 ก. เมื่อปี 2534 และถือครองทำกินเรื่อยมา ภายหลังเมื่อมีการร้องเรียนเรื่องการออกเอกสารสิทธ์ทับที่สาธารณะรวมไปถึงที่ดินของชาวบ้าน ของนายทุน นายยศ จึงได้ยื่นเรื่องขอรังวัดเพื่อออกโฉนด และได้รับโฉนดที่ดินเลขที่ 34786 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 เนื้อที่จำนวน 29 ไร่ 2 งาน 87 ตารางวา แต่เมื่อทำการตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของโฉนด ในระบบแอปพลิเคชั่นของกรมที่ดิน เพื่อหาตำแหน่งรูปแปลงที่ดินของตนเองแต่ไม่พบ แต่กลับพบว่าตำแหน่งที่ดินของตนมีโฉนดเลขที่ 19335 ครอบทับอยู่แทน นายยศจึงยื่นเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครพนม ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบพร้อมเดินทางมาขอตรวจสอบสาระบบการออกโฉนดของที่ดินทั้งสองแปลงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่
ข่าวน่าสนใจ:
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ฝนตกหนักสัญญาณเตือนภัยน้ำป่าเขาบรรทัดส่งสัญญาณเตือนเสียงดัง จ.พัทลุง
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
ล่าสุด วันที่ 26 สิงหาคม 2562 นายยศได้เดินทางไปสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทน พร้อมกับนางสาวปานทอง สาเส็ง อายุ 37 ปี ลูกสาว เพื่อยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดินตรวจสอบสาระบบ แต่นายชัยนันท์ กั้นชัยภูมิ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทน อ้างติดราชการในจังหวัด จึงมีนายทีราช คำเฉลียว นักวิชาการที่ดินชำนาญการ เป็นผู้ตรวจสอบสาระบบให้แทน ซึ่งพบว่ามีการออกโฉนดทับกันจริง แต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายทุนได้มีหนังสือถึงสำนักงานที่ดินฯ เพื่อขอรังวัดตรวจสอบเขตที่ดิน จำนวน 16 แปลง จึงต้องรอผลการสรุปจากเจ้าหน้าที่รังวัดเสนอต่อผู้บังคับบัญชา แล้วก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคณะกรรมการ ทั้งในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน ในจังหวัดนครพนม และจากส่วนกลาง แจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่า มีการรุกล้ำที่ดินสาธารณะและที่ทำกินของชาวบ้านหรือไม่อย่างไร
รายงานเพิ่มเติมว่าที่ดินของนายยศ เมื่อครั้งเป็น นส.3 ก. นั้น เลขที่ 38 หน้าระวาง 5944 แผ่นที่ 142 แต่ขณะเดียวกันมีที่ดิน นส.3 ก. ของนายเขิง ยางเบือก (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ซึ่งอยู่ข้างเคียงกับที่ดินนายยศ มีเพียงทางเกวียนกั้นเท่านั้น และได้ขายที่แปลงดังกล่าวให้กับนายทุนอย่างถูกต้อง ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเร่งรัดการออกโฉนดมากเกินไป และมีการออกโฉนดแปลงหมายเลข 19242 โดยใช้ นส 3.ก เนื้อที่ ประมาณ 30 ไร่ออกเป็นโฉนด เนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ เป็นเหตุให้ไปทับที่ดินของนายเขิง ซึ่งถือครอง นส.3 ก เนื้อที่ประมาร 45 ไร่ ต่อมานายเขิงได้ขายที่ดิน นส. 3 ก ให้นายทุนและนายทุนได้นำมาขอออก โฉนดแต่ที่ดินแปลงดังกล่าวถูกนำไปออกโฉนดแปลงหมายเลข 19242 ไปแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ดินที่ออกรังวัดในสมัยนั้นจึงนำมาออกทับที่ของนายยศ ที่ถือครอง เอกสารเป็น นส. 3 ก.เช่นกันเป็นโฉนดที่ดินหมายเลข 19335 แต่ยังไม่ทันที่นายทุนจะฟ้องขับไล่นายยศ เหมือนกับที่ได้กระทำกับชาวบ้านคนอื่นๆ นายยศ ทราบเรื่องก่อนว่า ที่ดินของตนอาจจะถูกออกเอกสารสิทธิ์ ทับจึงได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนกับทางการพร้อมนำสื่อมวลชนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและยื่นเรื่องขอออกโฉนด ตามหลักฐาน นส.3 ก ของตนเองต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนเมื่อปี 2559 ซึ่งสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนก็ได้ออกรังวัดพร้อมออกโฉนดให้ตามคำขอ แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นการออกโฉนดทับกันกับโฉนดที่ดินหมายเลข 19335 ที่เป็นที่ดินของนายเขิง ซึ่งได้ขายให้นายทุนไปแล้ว
น.ส.ปานทอง สาเส็ง ลูกสาวของนายยศ เล่าว่าตอนนายทุนบุกรุกที่ดินนั้น พ่อก็ไม่สบายใจเพราะมีเพียง นส.3 ก. จึงไปปรึกษาเจ้าพนักงานที่ดิน ก็ได้รับคำแนะนำให้ยื่นเรื่องขอรังวัดเพื่อออกโฉนด ซึ่งพ่อก็ทำตามทุกอย่าง มีเจ้าหน้าที่ไปปักหมุดโฉนดชัดเจน แต่ขณะนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าพื้นที่ตรงนั้น นายทุนได้แอบออกเป็นโฉนดไปก่อนแล้ว ที่ดินของพ่อตนจึงเป็นโฉนดทับโฉนด หมุดที่ดินทับหมุดที่ดิน ถึงขณะนี้ยังไม่รู้ว่ากรมที่ดินจะพิจารณาออกมาเป็นอย่างไร แต่จากการตรวจสอบหลักฐาน มีแต่ชื่อนายทุนระบุเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: