นครพนม – เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจังหวัดนครพนม ยังคงเฝ้าระวังปัญหาน้ำเอ่อท่วม หลังระดับน้ำโขงเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดยังทรงตัวที่ประมาณ 7.62 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติประมาณ 5 เมตร ส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลักเริ่มระบายลงแม่น้ำโขงช้า โดยเฉพาะลำน้ำก่ำที่รับน้ำมาจากพื้นที่หนองหาร จ.สกลนคร มีระยะทางยาวกว่า 120 กิโลเมตร ที่ไหลผ่าน อ.นาแก ก่อนระบายลงน้ำโขงที่ประตูระบายน้ำธรณีนฤมิต อ.ธาตุพนม
ช่วงสองวันที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักสุดในรอบปี พื้นที่ อ.นาแก มีปริมาณฝนเฉลี่ย 130 มิลลิเมตร ทำให้มวลน้ำไหลมาสมทบกับลำน้ำก่ำ ส่งผลกระทบให้หนุนลำน้ำบัง ลำน้ำสายหลักอีกแห่ง ทำให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นท่วม ตรงบริเวณจุดบรรจบ แม่น้ำสองสาย คือ ลำน้ำบัง และลำน้ำก่ำ บริเวณบ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ทำให้น้ำเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ข้าวนาปีของชาวบ้าน ที่เพิ่งปักดำเสร็จ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบกว่า 3,000 ไร่ ซึ่งหากมีฝนตกหนักต่อเนื่องเช่นนี้ บวกกับมีการระบายน้ำจากหนองหาร จะส่งผลให้ น้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเพิ่มขึ้น รวมถึงบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือน จะถูกน้ำท่วมขัง โดยพื้นที่บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก ถือเป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เมื่อปี 2560 ถูกน้ำท่วมหนักสุดนานเกือบ 2 เดือน โดยทางอำเภอนาแก ได้ประสาน หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจสอบ ประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนประชาชนให้เก็บสิ่งของขึ้นที่สูง
นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด พื้นที่บ้านปากบัง ต.พิมาน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมทุกปี อีกทั้งเป็นจุดบรรจบรวมแม่น้ำสองสายระหว่างน้ำก่ำกับน้ำบัง ไหลมารวมกัน ก่อนไหลระบายลงแม่น้ำโขง ทำให้มีปัญหาทุกปี ยากต่อการแก้ไข เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงต้องใช้วิธีคอยดูแลเฝ้าระวัง ช่วยเหลือประชาชน หากระดับน้ำสูงขึ้น และในช่วงนี้จากการตรวจสอบถือว่าระน้ำดับสูงจ่อล้นตลิ่ง จึงต้องเฝ้าระวัง และมีพื้นที่การเกษตรนาข้าวบางส่วน ได้รับผลกระทบน้ำท่วมแล้ว หากระดับน้ำไม่ลดลง คาดว่าจะส่งผลให้เกิดความเสียหายตามมา ในส่วนของบ้านเรือน ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ต้องเฝ้าระวัง เพราะยังมีความเสี่ยงหากฝนตกหนัก รวมถึงมีการระบายมวลน้ำจากหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งได้เตรียมพร้อมทุกภาคส่วน คอยดูแลเฝ้าระวังต่อเนื่อง
