นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตปริศนาของ พ.ท.วิชิต สุภา อายุ 58 ปี ตำแหน่งรองหัวหน้ากองข่าว มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) นครพนม และยังเคยปฏิบัติงานที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดนครพนม (กอ.รมน.ฯ) หลังเพื่อนบ้านข้างเคียงแจ้งว่า พบศพถูกยิงเสียชีวิตปริศนา บริเวณหน้าประตูบ้าน เวลา 17.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2562 พร้อมศพภรรยาคนใหม่คือ นางสาวนิตยา พันธะไชย อายุ 36 ปี มีอาชีพเป็นครูพี่เลี้ยงศูนย์เด็กแห่งหนึ่ง เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 112/90 หมู่บ้านพอเพียง ชุมชนบ้านน้อยใต้ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ภายหลังเกิดเหตุทางด้าน พ.ต.อ.ธีทัต อิ่มทั่ว รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.จีรัฐติกุล จรัสกมลพงศ์ รอง ผกก.ปราบปราม นำเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐาน
ทั้งนี้ยังพบอาวุธปืนสั้นลูกซองไทยประดิษฐ์ มีสภาพเก่า ลักษณะไม่พร้อมใช้งาน เพราะมีหยากไย่เกาะอยู่ตกในที่เกิดเหตุ และกระเด็นห่างจากศพนายทหารผู้ตาย 4 -5 เมตร โดยสภาพศพนั่งฟุบในโซฟาหน้าบ้าน มีรอยถูกยิงที่หน้าอกซ้าย 1 นัด ส่วนภรรยานอนเสียชีวิตข้างกำแพงบ้าน มีรอยยิงด้วยอาวุธปืนที่หน้าอก 1 นัด แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือทำร้ายร่างกาย หลังชันสูตรพลิกศพเจ้าหน้าที่ส่งศพผู้ตายทั้งสอง ไปเก็บไว้ที่ห้องดับจิต รพ.นครพนม
ล่าสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2562 ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้มีการส่งศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ไปตรวจชันสูตรหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมนำอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุไปตรวจพิสูจน์ยืนยันหาคราบเขม่าดินปืนที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดถึงการเสียชีวิต คาดว่าจะต้องรอผลการตรวจชันสูตรภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อรวบรวมหลักฐานหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าประเด็นหลักของการเสียชีวิต จากการให้ปากคำของ แม่ชีนิรมล สุภา อายุ 52 ปี อดีตภรรยาของผู้ตาย ระบุว่า มีลูกชายด้วยกันกับนายทหารผู้ตาย 1 คน อายุ 22 ปี ปัจจุบันเป็นทหารเกณฑ์ประจำ มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ก่อนนี้มีปัญหาชีวิต เนื่องจากผู้ตายไปมีภรรยาใหม่คือ น.ส.นิตยา กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงตัดสินใจไปบวชชีเพื่อละทางโลก แต่ยังมีปัญหาเพราะยังไม่ได้ถอนทะเบียนสมรส ทำให้นายทหารผู้ตายได้ไปขอร้องให้ถอนทะเบียน เพราะมีปากเสียงกับภรรยาคนใหม่ ที่หลังไปอยู่กินกันได้ประมาณ 3 ปี จึงยอมถอนทะเบียนสมรสให้ โดยอดีตภรรยายังระบุอีกว่าหลังจดทะเบียนหย่าแล้ว ทางอดีตสามีบอกจะไม่ยอมจดทะเบียนใหม่กับ น.ส.นิตยา และจะทำพินัยกรรมยกมรดกทั้งหมดให้กับลูกชายเพียงคนเดียว
ข่าวน่าสนใจ:
จากนั้นภรรยาคนใหม่รบเร้าให้ไปจดทะเบียนสมรส แต่ผู้พันวิชิตไม่ยอม น.ส.นิตยาจึงไม่พอใจ ขอเงิน 5 แสนเป็นการแยกทางกัน ไม่เช่นนั้นจะแจ้งความกล่าวหาว่าผู้พันวิชิตยักยอกทรัพย์ในบ้าน เพราะบ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นชื่อของ น.ส.นิตยา และมีการข่มขู่จะเอาเรื่องนายทหารให้ถึงที่สุด ก่อนเกิดเหตุเพียง 2 วัน พ.ท.วิชิตไปปรับทุกข์เรื่องดังกล่าวกับแม่ชีนฤมล บ่นว่าเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้นมาก หากภรรยาคนใหม่วุ่นวายมากจะฆ่าให้ตาย ซึ่งทางอดีตภรรยาเคยให้ข้อคิดไม่ควรใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา เพราะจะเป็นบาปเป็นกรรม จนกระทั่งมาเกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นการลงมือฆ่ากันเอง อีกทั้งนายทหารผู้ตาย ยังมีอาการป่วย มานานหลายปี เป็นโรคความดันโลหิต อัมพาตครึ่งซีกกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่พอสามารถช่วยเหลือตัวเองไปมาได้ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของความเครียด
ด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ระบุว่า เบื้องต้นมีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าผู้ตายกับภรรยาอาจจะเสียชีวิต ตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 29 สิงหาคม 2562 เพราะชันสูตรศพเบื้องต้น สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง แต่บ้านผู้ตายห่างจากชุมชนมาก เป็นหมู่บ้านจัดสรรที่สร้างอยู่ใกล้ป่าชุมชน เป็นที่เปลี่ยวไม่ค่อยมีรถผ่านไปมามากนัก แต่ยังพอมีเพื่อนบ้านที่อยู่กำแพงติดกัน 1 หลัง และได้ยินเสียงปืนดังช่วงกลางคืน คาดว่าจะเกิดเหตุในช่วงเย็นคืนนั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการสอบสวน พบประเด็นเกี่ยวกับปัญหาชีวิตครอบครัวกับภรรยาคนใหม่ แต่ทางตำรวจยังไม่ชี้ชัดสรุปสาเหตุการเสียชีวิต โดยได้มีการส่งศพผู้เสียชีวิตทั้งสองไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น รวมถึงนำอาวุธปืนที่ตกในที่เกิดเหตุไปชันสูตร เพื่อสรุปหาสาเหตุ หากผลการชันสูตรพบว่าอาวุธปืนที่พบเป็นกระบอกเดียวกันที่ก่อเหตุ และไม่มีหลักฐานรอยนิ้วมือบุคคลอื่นแอบแฝง ยืนยันว่าเป็นการฆ่ากันเองจากปัญหาชีวิต ทางตำรวจจะได้สรุปสาเหตุยืนยันอีกครั้ง แต่ยังไม่ตัดประเด็นฆาตกรรม จนกว่าจะมีผลตรวจพิสูจน์หลักฐานออกมายืนยันชี้ชัด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: