นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ไบค์เลน เฟส 2 บริเวณเยื้องจวนผู้ว่าราชการจังหวัดหลังเก่า ที่สร้างอ้อมหลังบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำยาวไปโผล่ถนนสุนทรวิจิตรอีกครั้งตรงหน้าโบสถ์นักบุญอันนา(โบสถ์คริสต์) ชุมชนหนองแสง ซึ่งสร้างเป็นทางปั่นจักรยานสำหรับชมวิวสองฟากฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ทรุดตัวพังถล่ม เนื่องจากมีฝนตกหนักทำให้ดินตะกอนไหลกระแทกตอม่อสะพานจนพังเสียหาย
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เกรงทางไบค์เลน เฟส 1 ซึ่งอยู่บริเวณช่วงด่านท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนมเชื่อมไปผ่านหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ มาโผล่ที่ลานตะวันเบิกฟ้า หน้าบ้านพักผู้พิพากษา ระยะทางยาว 660 เมตร จะมีปัญหาในการก่อสร้างเช่นเดียวกับเฟส 2 จึงสั่งให้ปิดบริการชั่วคราว พร้อมสั่งให้โยธาและผังเมืองจังหวัดนครพนม ตรวจสอบกายภาพโครงสร้าง ว่า มีความมั่นคงแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน
นายชิดชัย อินทรพาณิชย์ ผอ.โยธาและผังเมืองจังหวัดนครพนม จึงระดมผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชน ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างไบค์เลนเฟส 1 เบื้องต้นทราบว่ากายภาพโครงสร้างไม่มีปัญหา แต่เพื่อความมั่นใจจึงเสริมความแข็งแกร่งยกกำลังสอง ด้วยการอัดฉีดซิเมนต์พอกเสาตอม่อทุกต้น ลึกประมาณ 20 เมตร และทดสอบความมั่นคงแข็งแรงของกายภาพโครงสร้าง ด้วยกรรมวิธีทางธรรมชาติเช่นระหว่างมีฝนตกหนัก ดินตะกอนไหลกระแทกเสาตอม่อแล้วมีการเคลื่อนหรือเอนของโครงสร้างหรือไม่ ผลการทดสอบมีรายงานจากระบบที่ติดตั้งตรวจการไหวเอนเป็นศูนย์
หลังตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนมั่นใจ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม จึงสั่งให้เปิดบริการไบค์เลนเฟส 1 ได้ตามปกติ ซึ่งนายชิดชัย อินทรพาณิชย์ ผอ.โยธาฯนครพนม เผยว่าการดีไซน์ทางจักรยาน 1 ตารางเมตร สามารถรับน้ำหนักได้ 500 กก. ในหลักความจริง 1 ตารางเมตร ถ้าเป็นคนจะยืนได้ไม่เกิน 2 คน น้ำหนักเต็มที่ 200 กก. จึงยืนยันเพื่อให้ความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว นักกีฬา และบุคคลทั่วไป ว่าเข้าไปใช้บริการไบค์เลนได้อย่างสบายใจ มีความปลอดภัยแน่นอน พร้อมรองรับคลื่นมหาชนที่จะมาชมการไหลเรือไฟในวันที่ 13 ตุลาคมที่จะถึงนี้
