นครพนม – วันที่ 15 กันยายน 2562 เวลาแดดร่มลมตก บริเวณลานกินลมชมวิว ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหววัดนครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีฑัต อิ่มทั่ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฯ (รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม) นายภาสกร พุทธานุภากร ผอ.การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)นครพนม นพ.ยุทธชัย ตริสกุล ผอ.รพ.นครพนม นายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นางสุภาภรณ์ นิรมาณการย์ ประธานมูลนิธิศรีโคตรบูร และ นายคมสัน นิลยองตระกูล ท่องเที่ยวและกีฬาฯ(ทกจ.ฯ) ในฐานะเป็นแม่งาน ร่วมแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “เดิน วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2019”(NAKHON PHANOM-KHAMMOUAN MARATHON 2019) ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ณ บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ซึ่งสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งนี้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย
นายคมสันฯ กล่าวว่า ทกจ.นครพนม และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับมูลนิธิศรีโคตรบูร จัดโครงการเดิน-วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วนฯ ครั้งที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทุกเพศทุกวัย มีความตื่นตัวในการเล่นกีฬา และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ พลานามัย ระเบียบวินัย ความมีน้ำใจนักกีฬา และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เพราะจังหวัดนครพนมมีความได้เปรียบจากที่อื่น ตรงที่มีธรรมชาติ ทิวทัศน์สวยงาม มีอากาศบริสุทธิ์ โดยได้รับการยืนยันการันตีจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ กรมสุขภาพจิต ร่วมกับสถาบันวิจัยและสังคม รับรองว่าเป็นจังหวัดที่ประชาการมีความสุขที่สุดในประเทศไทย
ส่วนการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ ประเภทมาราธอน ระยะทาง 42.195 กม.ค่าสมัคร 800 บาท,ฮาล์ฟมาราธอน 20.10 กม.ค่าสมัคร 700 บาท,มินิมาราธอน 10 กม.ค่าสมัคร 600 บาท และ FUN RUN 5 กม.ค่าสมัคร 400 บาท ส่วนนักกีฬา VIP ค่าสมัคร 1,000 บาท โดยมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) รายได้จากค่าสมัครหลังหักค่าใช้จ่ายเพื่อการกุศลเข้ามูลนิธิศรีโคตรบูรสำหรับช่วยเหลือผู้สูงอายุ คนพิการ และโรงพยาบาลนครพนม สำหรับจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และอื่นๆที่จำเป็น
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม กล่าวว่าเป็นการเดินวิ่งข้ามแม่น้ำโขง บนสะพานสวยที่สุดแห่งสยาม และในเส้นทางการแข่งขันนั้น ยังมีถนนเลียบริมโขงที่ดีที่สุด และเป็นการส่งเสริมให้เยาวชน ประชาชนในจังหวัดนครพนม มีประสบการณ์ในการวิ่งมาราธอน โดยใช้กีฬาเป็นสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เป็นการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกทางหนึ่ง
“ปีที่แล้ว(2561)มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 7,000 คน ทุกท่านล้วนพกความประทับใจกลับไป ปีนี้เช่นกันเราจึงต้องสร้างความประทับใจให้เขากลับไปเหมือนปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบแก่มูลนิธิศรีโคตรบูร นำไปช่วยเหลือคนชรา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส นับเป็นการสร้างบุญโดยได้จากการสมัครของนักกีฬา”
ผวจ.นครพนม กล่าวต่อว่ากิจกรรมนี้คือส่วนหนึ่งในการส่งเสริมภาพลักษณ์ เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว และเมืองแห่งความสุข เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดโครงการยกระดับและพัฒนาสามเหลี่ยมการท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัดสนุก(นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) เชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ต้อนรับและดึงดูดนักท่องเที่ยว นักวิ่ง จากทั่วประเทศและจาก สปป.ลาว ให้มาสัมผัสบรรยากาศที่สวยงาม และอบอุ่นเป็นกันเองของชาวนครพนม
ด้านนางสุภาภรณ์ นิรมาณการย์ ประธานมูลนิธิศรีโคตรบูร เผยว่าเป็นการเดินวิ่งเพื่อการกุศลอย่างแท้จริง นอกจากนี้ผู้สมัครจะได้รับเสื้อพร้อมเหรียญและใบประกาศทุกคน โดยชำระเงินค่าสมัครลงแข่งขันในชื่อบัญชีมูลนิธิศรีโคตรบูร ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด สาขาเทสโก้โลตัสนครพนม เลขที่ 666 -0- 20277-8 และชื่อบัญชีมูลนิธิศรีโคตรบูร ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขานครพนม เลขที่ 321-2- 68008-0 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม
ขณะที่ นายภาสกร พุทธานุภากร ผอ.การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เปิดเผยว่านายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม กำชับให้ตัวแทนคณะกรรมการฝ่ายเทคนิค ฝ่ายความปลอดภัย ฝ่ายให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการจัดงานเดิน-วิ่ง ข้ามโขง นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2019 เตรียมความพร้อมรองรับนักกีฬาที่จะเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ จึงจัดประชุมคณะทำงานฝ่ายต่างๆ หลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด เพราะปีที่แล้ว(2561) มีเสียงชื่นชมจากนักกีฬาว่าจัดงานได้สมบูรณ์แบบมาก
นายภาสกรเผยว่ากิจกรรมดังกล่าวได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตัดสิน ซึ่งทุกประเภทจะได้เดินวิ่งข้ามแม่น้ำโขงบนสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ไปทักทายเพื่อนพ้องน้องพี่ชาว สปป.ลาว ก่อนจะเลี้ยวกลับมาเข้าเส้นชัยตามระยะทางของแต่ละประเภท ยกเว้นประเภทมาราธอนที่จะต้องวิ่งต่อไปยังตัวเมืองนครพนม แล้วถึงวกกลับมาเข้าเส้นชัยที่จุดสะพานมิตรภาพ 3 เช่นเดิม
สำหรับการเตรียมแผนรองรับทัพนักกีฬานั้น ทางจังหวัดนครพนมได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้แก่นักกีฬาที่มาร่วมงานเกิดความประทับใจ ดังนั้น จึงต้องเตรียมพร้อมในทุกๆด้าน โดยแบ่งทีมงานรับผิดชอบดูแลนักกีฬา เพื่อให้สะดวกทั้งการให้บริการและรับบริการ เช่นที่พัก ห้องสุขา อาหาร ตลอดจนอำนวยความสะดวกในด้านการจอดรถ การจราจร และความปลอดภัยด้านต่างๆ โดยเฉพาะน้ำดื่มได้จัดรองรับมากถึง 25,000 ขวด กระจายตามเส้นทางมากถึง 22 จุด
ในเรื่องของอาหาร เช่น ข้าวต้ม กล้วย น้ำเต้าหู้ เครื่องดื่มเกลือแร่ ผ้าเย็น ฯลฯ ก็มีสำรองไว้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ยังได้เตรียมที่พักเพิ่มเติมไว้หลายแห่ง ในกรณีที่โรงแรมเต็ม รวมถึงให้นักกีฬาโต้ลมหนาว สัมผัสกับธรรมชาติริมฝั่งโขง ด้วยการกางเต็นท์นอนที่บริเวณสะพานมิตรภาพ ด้านความปลอดภัย ก็มีทั้งภาคพื้นดินจัดกำลังเจ้าหน้าที่เช่น ตำรวจท่องเที่ยว ตม.(ตรวจคนเข้าเมือง) อพปร. ดูแลตลอด 24 ชม. ทางน้ำก็มีหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง(นรข.) และตำรวจน้ำ ลาดตระเวนทุกระยะ ทางอากาศก็จะมีหน่วยร่มบินคอยสำรวจ รายงานสถานการณ์ต่างๆ มายังภาคพื้นดิน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาล รวมถึงมูลนิธิ และภาคเอกชนคอยสนับสนุนในการดูแลสุขภาพ
