นครพนม – วันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 มอบหมายให้ พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 ร่วมกับชุดปฏิบัติการปราบรามยาเสพติด แถลงผลงานการกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติตามแนวชายแดน หลังเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปราม ทั้งผู้เสพและผู้ค้า
กระทั่งสายสืบรายงานว่า นายศรีไพ สิทธินันท์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 บ้านโนนสูง ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เคยถูกจับในข้อหาเสพยาบ้า ศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่หลาบจำผันจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้า โดยมีพฤติกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาขายให้ลูกค้าฝั่งไทย และมีเพื่อนร่วมแก๊งที่รู้จักกันในคุกคือ นายสมยศ บุญทศ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 169 หมู่ 19 บ้านสายปัญญา ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ โดยทั้งสองมักจะไปไหนด้วยกัน จึงร่วมกันวางแผนติดตามจับกุม
เจ้าหน้าที่เข้าไปล่อซื้อจากผู้ต้องสงสัยทั้งสอง จนมีการนัดส่งมอบยาบ้ากันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านนาพระชัย ต.หนองแวง อ.บ้านแพง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของนายศรีไพเท่าไหร่ กระทั่งคนทั้งคู่ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด แล้วไปเปิดห้องพัก 1 ห้อง จากนั้นก็โทรศัพท์ให้สายสืบมารับยาบ้า เจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มโป่งอยู่บริเวณนั้น จึงกรูกันเข้าไปยังห้องดังกล่าว ตรวจค้นพบของกลางยาบ้าจำนวน 3,977 เม็ด ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
เบื้องต้นทั้งนายศรีไพและนายสมยศ รับสารภาพว่าได้ร่วมกันรับจ้างจากนายทุนชาวลาว ครั้งละ 10,000 – 15,000 บาท โดยนายทุนจะแฝงตัวเป็นคนหาปลา ใช้เรือหางยาวเป็นพาหนะ นำยาบ้ามาวางไว้ริมตลิ่งแม่น้ำโขง จากนั้นก็จะโทรให้ตนทั้งสองไปนำมาพักไว้ เพื่อรอส่งต่อให้ลูกค้าที่มาติดต่อซื้อ ไม่คิดว่าจะโดนเจ้าหน้าที่จะสวมรอยเป็นพ่อค้ามาล่อซื้อจนถูกจับดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าหลังพ้นโทษก็ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงชักชวนไปรับจ้างส่งยาบ้า ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบคัดกรอง สกัดกั้นปราบปรามในพื้นที่ตามแนวชายแดน เนื่องจากปัจจุบันมีการลักลอบขนยาบ้ามาขายแบบกองทัพมดมากขึ้น จึงต้องเข้มงวดเป็นพิเศษต่อไป
