นครพนม – เรือไฟอำเภอเมืองนครพนมลำแชมป์ ยันสร้างเสร็จโชว์ความอลังการในคืนวันไหล ขอแค่เสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยว
คืบหน้า กรณีวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เกิดพายุฝนพัดถล่มโครงสร้างเรือไฟที่ทำมาจากไม้ไผ่ทั้งหมดของอำเภอเมืองนครพนม และอำเภอท่าอุเทน ที่มีซุ้มติดกันพังยุบลงมาทั้งโครง จึงเกิดคำถามว่าจะสร้างขึ้นใหม่ทันในวันไหลเรือไฟคืนวันที่ 13 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ได้ไหม
ปรากฏว่าหลังลมพายุสงบ นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม รุดมายังซุ้มเรือไฟทันที พร้อมเรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล เข้าหารือในการกู้โครงสร้างเรือไฟกลับคืนมา โดยขอความร่วมมือแต่ละตำบล หมู่บ้าน นำไม้ไผ่วัสดุหลักของโครงสร้างเรือไฟ หมู่บ้านละ 10 ลำ พร้อมกำลังชายฉกรรจ์ตำบลละ 20 คน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันมีประชาชนทราบข่าว ก็เดินทางมามอบสิ่งของจำเป็นต่างๆ และเขียนให้กำลังใจแก่ทีมศิลปินเรือไฟลงบนกระดาษใบโพธิ์ นำมาแขวนไว้หน้าบริเวณทางเข้าซุ้ม ทำให้กลุ่มนักสร้างเรือไฟมีกำลังใจฮึกเหิม ระดมกำลังทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำ เพราะมีเวลาเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น
ล่าสุด วันที่ 9 ตุลาคม 2562 นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม ได้เดินทางมาตรวจการสร้างโครงเรือไฟตั้งแต่เช้าตรู่ โดยเปิดเผยรายละเอียดว่า โครงสร้างเรือไฟเดิมมีความยาว 110 เมตร สูง 30 เมตร เทียบเท่าตึก 10 ชั้น หลังถูกลมพายุพัดพังยุบลงมาก็เร่งสร้างลำใหม่ขึ้น โดยมีความยาว 80 เมตร สูง 24-25 เมตร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานส่งคนมาช่วย และซาบซึ้งใจในกลุ่มศิลปินเรือไฟของอำเภอต่างๆที่หลังสร้างเรือไฟของตนเสร็จ ก็ยกกำลังคนมาระดมช่วยสร้างเรือไฟของอำเภอเมืองนครพนมให้แล้วเสร็จทันวันไหลคืนที่ 13 ตุลาคมนี้
“ท่ามกลางวิกฤตเรายังได้เห็นน้ำใจจากเพื่อนๆนักสร้างเรือไฟ ที่มาช่วยกันสร้างเรือไฟอำเภอเมืองนครพนม ให้ได้ไหลโชว์พร้อมกันในคืนไหลเรือไฟอีกด้วย” นายอำเภอเมืองนครพนม กล่าว
อนึ่ง เรือไฟของอำเภอเมืองนครพนม ได้ครองแชมป์ถ้วยพระราชทาน ประเภทเรือไฟสวยงามถึง 2 ปีซ้อน(2560-61) จึงถูกจับตามองว่าปีนี้(2562)จะรักษาแชมป์ไว้ได้หรือไม่ แต่หลังถูกพายุพัดพังถล่ม ทุกคนก็ยังหวังว่าเรือไฟระดับแชมป์ต้องมีทีเด็ดโชว์นักท่องเที่ยว ซึ่งกลุ่มศิลปินเรือไฟไม่ได้คาดหวังรางวัลแชมป์ แค่ได้ยินเสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยวถือว่าพวกเขาได้ทำงานสำเร็จแล้ว
