มุกดาหาร – บุตรสาวอดีตประธานประเทศลาว มอบหนังสือประวัติท่านหนูฮัก พูมสะหวัน และผลงานทางด้านวรรณกรรมของนักประพันธ์แห่งชาติลาว เพื่อเก็บรักษาไว้ที่อนุสรณ์สถานท่านหนูฮัก พูมสะหวัน ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 61 ที่บริเวณอนุสรณ์สถานท่านหนูฮัก พูมสะหวัน บ้านพาลุกา หมู่ที่ 3 ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร นายปานทอง สระคูพันธ์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานงานรับมอบหนังสือให้แก่อนุสรณ์สถานท่านหนูฮัก พูมสะหวัน จากคุณย่าพูทอง พูมสะหวัน คุณย่าขันแก้ว พูมสะหวัน ท่านดวงไซ หลวงพะสี นักประพันธ์แห่งชาติลาว และคณะ โดยมีนายปิติณัช นิธิศธานี นายอำเภอหว้านใหญ่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านพาลุกา ให้การต้อนรับและร่วมงานในครั้งนี้ประมาณ 200 คน
นายปิติณัช นิธิศธานี นายอำเภอหว้านใหญ่ กล่าวว่า งานรับมอบหนังสือประวัติท่านหนูฮัก พูมสะหวัน อดีตประธานประเทศลาว ซึ่งมีความสำคัญกับพื้นที่บ้านพาลุกาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากพิพิธภัณฑ์ท่านหนูฮัก ได้เปิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา และได้มีการปรับปรุงรูปแบบให้เป็นที่น่าสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยพื้นฐานข้อมูลประวัติท่านหนูฮัก ฯ จริง ๆที่เป็นข้อมูลฉบับสมบูรณ์ ยังไม่มีการรวบรวมข้อมูล ขณะนี้ท่านดวงไซ หลวงพะสี ซึ่งเป็นนักเขียนรางวัลซีไรท์ของลาว ได้รับมอบหมายจากทางการลาว ให้เป็นผู้รวบรวมประวัติต่าง ๆ ของท่านหนูฮัก ฯ ขึ้นซึ่งในขณะนี้เล่มที่ 1 ก็เสร็จเยนร้อย และได้มามอบให้กับพิพิธภัณฑ์จำนวน 158 เล่ม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งข้อมูลจะเป็นประวัติศาสตร์เชื่อมโยงไทยและลาว ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เชื่อมโยง ทางไทยและลาวจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสืบค้นความเป็นมาเพื่อเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง
นายอำเภอหว้านใหญ่ กล่าวอีกว่า ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากบุตรสาวของท่านหนูฮัก ฯ คือแม่ย่าพูทอง พูมสะหวัน และแม่ย่าขันแก้ว พูมสะหวัน ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ ที่ได้เดินทางมาร่วมพิธีและร่วมมอบหนังสือ ซึ่งวันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่จะบันทึกไว้ให้อนุชนรุ่นหลังไว้ให้ศึกษา
ข่าวน่าสนใจ:
ท่านหนูฮัก พูมสะหวัน เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรไทย ท่านมีถิ่นกำเนิดและใช้ชีวิตในวัยเยาว์ ณ สถานที่แห่งนี้คือบ้านพาลุกา แขวงเมืองมุกดาหาร ในขณะนั้นและเข้ารับการศึกษาชั้นต้นที่วัดมโนภิรมย์ ต่อมาครอบครัวของท่านได้ย้ายถิ่นฐาน ไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จนกระทั่งดำรงตำแหน่งประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นสถานที่แสดงความรำลึกถึงถิ่นกำเนิด ถิ่นพำนักช่วงวัยเยาว์ รำลึกถึงคุณงามความดี และแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งทางอำเภอหว้านใหญ่ได้มอบหมายให้วิทยาลัยชุมชนมุกดาหารในการดำเนินการแปลหนังสือดังกล่าวเป็นภาษาไทย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์เป็นแหล่งข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับประวัติท่านหนูฮัก พูมสะหวัน ตามเจตนารมณ์ของท่านต่อไป…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: