นครพนม – คืบหน้าล่าสุดวันที่ 22 ตุลาคม 2562 ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี จะได้รวบรวมหลักฐาน นำตัวนายสุดตา พรหมภักดี อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้แล เพื่อการอนาจาร,พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่ออนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนฯ และบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล รวมความผิด 4 ข้อหา ไปฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาอยู่บ้านติดกับผู้เสียหายเกรงว่าจะคุกคาม ข่มขู่ผู้เสียหาย
โดยก่อนหน้าที่นายสุดตาจะถูกจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดนครพนมนั้น หลังทราบว่าพ่อแม่ของเด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับตน ได้ประกาศว่าหากเขาถูกจับพ่อแม่เด็กก็จะติดคุกด้วย ซึ่งผู้ต้องหาอาจจะยัดเยียดสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปในบ้านของผู้เสียหาย ประกอบกับผู้เสียหายได้เขียนคำร้องคัดค้านการประกันตัว
และตั้งแต่นายสุดตาถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับกองปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) กองกำกับการ 3 เข้าควบคุมตัวเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น และก็เยื้อเวลาการส่งฝากขัง โดยทนายอ้างงานยุ่ง ยังไม่มีเวลาร่วมฟังการสอบปากคำ จนครบกำหนดอำนาจการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน ในเวลา 48 ชั่วโมง จึงต้องนำตัวส่งฝากขังตามเงื่อนไขของกฎหมาย ขณะที่ทางด้านครอบครัวของเด็ก ยังอยู่ในความหวาดผวา ส่วนเด็กที่ถูกชำเราอยู่ในความดูแลของสหวิชาชีพ
