นครพนม – วันที่ 23 ตุลาคม 2562 เวลา 14.45 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดสนามกีฬาตำรวจนครพนม โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ต.สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.4 นายบุญชัย ภูรีเสถียร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนม นายณรงค์ชัย อรุณแสงศิลป์ อัยการจังหวัดฯ นางสาว สมสวาท เทพนำโสมนัสส์ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดฯ นายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม และข้าราชการตำรวจในสังกัด บก.ภ.จว.นครพนม พร้อมพี่น้องประชาชน ร่วมชมพิธีเปิดและการแข่งขันฟุตบอล 9 คน นัดชิงชนะเลิศระหว่างทีมกองกำกับการสืบสวน กับ ทีมสถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าอุเทน
พ.ต.อ.สรกฤช ราชภักดี ผู้กำกับฝ่ายอำนวยการฯ เป็นตัวแทนคณะกรรมการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาตำรวจสัมพันธ์ 2562 หัวหน้าสถานีตำรวจฯ นักกีฬา และคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน กล่าวว่า การก่อสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของส่วนราชการ ห้างร้าน พ่อค้าประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ที่ตระหนักถึงความสำคัญในการออกกำลังกาย ดังนั้นเพื่อให้กลุ่มตำรวจและประชาชนทั่วไป มีสนามกีฬาที่มีมาตรฐาน ไว้เป็นสถานที่เล่นกีฬา ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมร่วมกัน จึงได้ร่วมแรงใจกันสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ขึ้น โดยมี พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(ผบก.ภ.จว.ฯ) เป็นผู้บริหารจัดการก่อสร้าง จนสำเร็จลุล่วงเป็นสนามฟุตบอลที่สวยงาม และมีมาตรฐานที่สุด พื้นสนามก็ใช้หญ้าจริง มูลค่าการก่อสร้าง 3.3 ล้านบาท
พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า บริเวณรอบสนามฟุตบอลเป็นแฟลตตำรวจ ตรงนี้ที่ก่อสร้างนี้มีหญ้าขึ้นรก เพราะมีน้ำท่วมทุกปี กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หลังมารับตำแหน่ง ผบก.ภ.ฯ จึงคิดอยากจะปรับปรุงให้เป็นสนามกีฬา โดยไปขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง ทุกคนเห็นดีด้วยจึงลงมือปรับพื้นที่ กระทั่งแปลงสภาพเป็นสนามกีฬาอันสวยงามอย่างที่เห็น
และก่อนที่ถึงคู่เปิดสนามระหว่าง vio ตำรวจ- vip นครพนม ได้มีการสาธิตยุทธวิธีชิงตัวประกัน โดยสมมุติว่ามีคนร้ายจี้ตัวประกัน เจ้าหน้าที่เริ่มจากชุดภาคพื้นดิน มีการโรยตัวจากตึกสูง และขอกำลังเสริมจากภาคอากาศมีเฮลิคอปเตอร์ กระทั่งสามารถชิงตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัย
สำหรับการสาธิตชิงตัวประกัน เนื่องจากปัจจุบันสภาพปัญหาอาชญากรรมในประเทศไทย มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น มีความสลับซับซ้อนทั้งอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน คนร้ายหรือผู้ถูกจับในคดีต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะเข้าทำการจับกุม ซึ่งจากข่าวสารทางสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ ได้ลงประกาศข่าวคนร้ายต่อสู้ขัดขวางยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเสียชีวิตไปหลายนาย รวมทั้งการก่ออาชญากรรมของเด็กและเยาวชน มีแนวโน้มสูงขึ้นตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคม การแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศ เข้าถึงกลุ่มเยาวชนในโรงเรียนมากขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายของโจรก่อการร้ายทั้งภายในประเทศ การก่อการร้ายข้ามชาติและการก่อการร้ายสากล รวมทั้งมีการจับตัวประกันจากผู้ติดยาเสพติดและวิกลจริตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งภัยดังกล่าวได้สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนและเป็นอันตรายต่อสังคม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงได้พิจารณาจัดเจ้าหน้าที่ที่มีลักษณะเป็นหน่วยกำลัง และมีการปฏิบัติที่มีระเบียบวินัยอย่างเช่นหน่วยของทหาร หรือกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อมาทำการฝึกทางด้านยุทธวิธีตำรวจพิเศษ เพื่อเป็นการรองรับตามแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 48) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้พิจารณาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ทั่วประเทศ ทั้งในส่วนของตำรวจภูธรภาค และ ตำรวจภูธรจังหวัด ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ. จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลัง 5 นาย มีสัญญาบัตร 1 นาย ชั้นประทวน 4 นาย เข้าทำการฝึกหลักสูตรพัฒนาศักยภาพหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นเรศวร 261 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตเจ้าหน้าที่ดังกล่าวออกไปปฏิบัติงานรองรับแผนรักษาความสงบ (กรกฎ 45) เมื่อแรกเริ่มการฝึก (ปัจจุบันเป็นแผนกรกฎ 48) เข้าแก้ไขสถานการณ์การก่อการร้าย การก่อการร้ายสากล การช่วยเหลือตัวประกัน การจู่โจมล้อมจับคนร้ายคดีสำคัญ คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและที่มีอาวุธพร้อมต่อขัดขวางการจับกุม และขยายผลการฝึกให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภายในหน่วย รวมทั้งการฝึกยุทธวิธีให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำโรงพักต่าง ๆ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ นปพ. ได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมหลักสูตรต่าง ๆ ทางด้านยุทธวิธีตำรวจจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อรินทราช 26 สังกัดกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และหลักสูตรอื่น ๆ อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกำลังพลที่ต้องออกไปปฏิบัติงานจริง
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งตัวเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติด้วย
