นครพนม – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) มีปัญหาขัดแย้งภายในจนลุกลามใหญ่โต ส่วนหนึ่งเกิดจากกรรมการสภา มนพ.บางคนขาดจริยธรรม ทำให้ผู้ที่เข้ามาครอบงำเหิมเกริม ใช้อำนาจในทางมิชอบกลั่นแกล้งผู้ที่รักความยุติธรรม จนกระทั่ง นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ สส.บัญชีรายชื่อ/รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำไปตั้งกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ผู้บริหารบางคน ได้กล่าวให้ร้ายคณบดีวิทยาลัยการบินนานาชาติ ต่อหน้าคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ครั้งเดินทางมาประชุมสัญจรที่จังหวัดนครพนม ระหว่างวันที่ 29-30 กันยายน โดยกล่าวหา ว.การบิน ใช้จ่ายเกินตัว จึงทำให้ มนพ.ติดลบ 56 ล้านบาท
ภายหลังคณบดี ว.การบิน ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมร้องเรียนและกล่าวโทษ ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก รักษาราชการแทนอธิการบดี มนพ. กรณีกล่าวความเท็จ พร้อมแนบเอกสารโดยระบุว่า ช่วงระหว่างปีงบประมาณ 2559-62 มนพ. นำเงินงบประมาณอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้กับ ว.การบิน ไปสนับสนุนสำนักงานอธิการบดี และแบ่งจ่ายให้กับหน่วยงานอื่นๆ โดยมิแจ้งให้ทาง ว.การบิน ทราบ ตลอดจนไม่เคยแจ้งในบอร์ด ว.การบิน อีกด้วย ซึ่งเป็นการนำเงินงบประมาณฯดังกล่าว ไปจัดสรรให้หน่วยอื่นในสังกัด มนพ. โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ โดยมียอดรวมสูงถึง 93 ล้านบาทเศษ
ต่อมา นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(ปลัด อว.) สั่ง มนพ. รายงานข้อเท็จจริง กรณีถูกร้องเรียนทั้งหมด โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาลใน มนพ. เพราะมีบางคนบริหารงานแบบรวบรัดและครอบงำกรรมการสภาฯ ซึ่งรายงานการชี้แจงของ มนพ. ไม่สามารถตอบคำถามทั้งหมดชัดเจน
ล่าสุด วันที่ 29 ตุลาคม 2562 แหล่งข่าวแจ้งว่ามีหนังสือด่วนถึงสำนักงานอธิการบดีฯ สั่งให้สภา ม.นครพนม ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก รักษาการแทนอธิการบดีฯ
หลังสำนักงานอธิการบดีรับหนังสือฉบับดังกล่าว ก็ถูกสั่งให้เก็บเงียบ ห้ามแพร่งพรายให้ภายนอกทราบ ขณะเดียวกันก็มีหนังสือแจ้งกรรมการสภาฯ เข้าประชุมด่วนในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมพนมเมธี อาคารสารสนเทศเพื่อการบริหาร ชั้น 5 สำนักงานอธิการบดี โดยสาระสำคัญแหล่งข่าวแจ้งว่าคือเรื่องแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก
ด้าน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เปิดเผยหลังทราบข่าวการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก ว่า ส่วนตัวไม่เชื่อมั่นกรรมการสภาฯ เพราะส่วนหนึ่งขาดจริยธรรม หากสภา ม.นครพนม ตั้งคนในมาเป็นกรรมการสอบสวนวินัย คงไม่ต่างอะไรกับการเล่นปาหี่ จึงแนะนำว่าควรเชิญบุคคลภายนอกที่ไม่มีส่วนได้เสีย อาทิ ศาล ทหาร ตำรวจ เชื่อว่าจะเห็นข้อเท็จจริงมากกว่า
นอกจากนี้แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า ที่ผ่านมาเวลามีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง บุคลากรใน ม.นครพนม ท้ายคำสั่งมักจะระบุข้อความไว้เสมอว่า “ ผู้ฟ้องคดีดำรงตำแหน่งผู้บริหารอยู่ในขณะนั้น อาจจะส่งผลให้บุคลากรในสังกัดฯ ไม่กล้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงได้ เนื่องจากพยานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจะเกรงกลัวต่ออำนาจของผู้บังคับบัญชา ซึ่งถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าถ้าคงอยู่ในหน้าที่ราชการจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนฯ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 50 แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 และมาตรา 30 และมาตรา 31 แห่ง พรบ.มหาวิทยาลัยนครพนม พ.ศ.2548 ประกอบกับข้อ 4 และข้อ 5 ของข้อบังคับมหาวิทยาลัยนครพนม ว่าด้วยการสั่งพักหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนฯ เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง”
ดังนั้น ในการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก ถือว่าเป็นผู้บริหารสูงสุดในมหาวิทยาลัยนครพนม กรรมการสภาฯ จะดำเนินการในมาตรฐานเดียวกับที่กระทำกับบุคลากรรายอื่นหรือไม่
