นครพนม – วันที่ 18 พ.ค.61 บริเวณอาคารอเนกประสงค์ หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม บ้านนาจอก หมู่ 5 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ของคนไทยเชื้อสายเวียดนาม กำลังเขม้นขะมักกับการเตรียมจัดงาน 128 ปี วันคล้ายวันเกิดท่านประธานโฮจิมินห์ ที่จะมีขึ้นในเช้าวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยพื้นที่ตรงนี้ ครั้งหนึ่งประธานโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ ผู้นำชาวเวียดนาม เคยพำนักอยู่ที่นี่ และใช้เป็นฐานที่มั่นในการกอบกู้อิสรภาพจากฝรั่งเศส ระหว่างปี พ.ศ. 2466 – 2474 จนประสบความสำเร็จ
นายจันทร์ไทย พัฒนะประสิทธิ์ชัย กำนันตำบลหนองญาติ ถือว่าเป็นลูกหลานของประธานโฮจิมินห์คนหนึ่ง เปิดเผยว่าเป็นประจำของทุกปี ที่คนไทยเชื้อสายเวียดนามทั่วประเทศ จะต้องเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อร่วมรำลึกถึงวีรบุรุษกู้ชาติผู้ยิ่งใหญ่ ยกย่องให้เป็นบิดาแห่งเวียดนาม และปี 2530 องค์การยูเนสโก้ประกาศให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก
“วันพรุ่งนี้(19 พ.ค.) จะมีนายเหวียน หาย บั่ง เอกอัครราชทูตฯเวียดนาม ประจำประเทศไทย และ นายฮว่าง หงอก เซิน กงสุลใหญ่ฯ ประจำจังหวัดขอนแก่น เดินทางมาร่วมในพิธี ฝ่ายไทยมีนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม นายประจวบ ไชยสาส์น นายกสมาคมมิตรภาพไทย-เวียดนามแห่งประเทศไทย ร่วมวางช่อดอกไม้แสดงความเคารพท่านประธานโฮจิมินห์ นอกจากนี้จะมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ จำนวน 30 ทุน ซึ่งงานรำลึกคล้ายวันเกิดลุงโฮจัดมาแล้ว 14 ปี” นายจันทร์ไทยกล่าว
โฮ จิ มินห์(ลุงโฮ) นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม เกิดวันที่19 พฤษภาคม ค.ศ.1890(พ.ศ.2433) มณฑลเงียอาน (สมัยที่เวียดนามยังเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส) เดิมชื่อว่า เหวียน ชิง กุง อายุ 21 ปี ได้ทำงานในเรือเดินสมุทร จึงมีโอกาสเดินทางไปอเมริกาและประเทศแถบยุโรป ต่อมาได้ทำงานเป็นพ่อครัวในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ประเทศอังกฤษ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 (2457-2461) สงบ ลุงโฮได้ยื่นข้อเสนอต่อที่ประชุมแวร์ซายส์ เรียกร้องให้เวียดนามมีสิทธิ์ในการปกครองตนเอง แต่ไม่มีใครให้ความสนใจ ลุงโฮจึงแยกตัวออกมาเข้าร่วมจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส โดยเดินทางไปศึกษาการเมืองที่กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย ในปี ค.ศ.1923(2466)
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- "นครพนมฮือฮา! งานศพสุดแปลก ใส่ชุดแดงฟ้อนรำส่งดวงวิญญาณ ‘เจ้แข่น’ ปิดตำนานสาวสองแห่งอำเภอนาทม
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
- กกต.อบจ.เพชรบูรณ์ ประกาศผลเลือกตั้ง "อัครเดช"รั้งแชมป์สมัย 7 ผู้ใช้สิทธิ์ไม่ถึงร้อยละ 50 ปชช.สงสัยผู้ใช้สิทธิกับบัตรลงคะแนน เลขเขย่งถามสาเหตุ
กระทั่งถึง ค.ศ.1924(2467) เดินทางไปมณฑลกวางโจว ประเทศจีน เริ่มรวบรวมชาวเวียดนามในจีนก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ครั้นในปี ค.ศ.1930(2473) เดินทางกลับเวียดนามในฐานะผู้นำ ขบวนการปลดปล่อยประชาชาติเวียดนาม (Viet Minh independence movement) และในปี ค.ศ.1941(2484) เริ่มใช้ชื่อว่า “โฮ จิ มินห์” แปลว่า “ผู้ส่องแสงสว่าง” จนในที่สุดก็ประกาศเอกราชเวียดนามได้สำเร็จ และก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ.1946(2489) แต่สงครามสู้รบระหว่างฝรั่งเศสกับฝ่ายเวียดมินห์ยังคงเกิดขึ้นยืดยื้อต่อมาอีกเกือบ 9 ปี สุดท้ายกองทัพเวียดนามมีชัยเหนือฝรั่งเศสในสมรภูมิเดียนเบียนฟู มีการเจรจาสงบศึก เมื่อปี ค.ศ.1954(2497)
โดยลงนามในสนธิสัญญาเจนิวา (Geneva Conference) และได้กำหนดให้เส้นรุ้งที่ 17 เป็นเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างเวียดนามเหนือกับเวียดนามใต้ โฮจิมินห์ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (เวียดนามเหนือ) และพยายามจะรวบรวมสองเวียดนามให้เป็นหนึ่งเดียว แต่ไม่นานเวียดนามใต้ได้ประกาศตนเป็นสาธารณรัฐขึ้น โดยการสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา กลายเป็น สงครามเวียดนาม (Vietnam War ปี ค.ศ.1959-1975(2502-2518) ยืดเยื้อยาวนานกว่าสิบปีก่อนจะจบลงพร้อมกับความพ่ายแพ้ของอเมริกา และเวียดนามทั้งสองรวมเป็นหนึ่งเดียว
โฮจิมินห์ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค..ศ.1969(2512) ลุงโฮเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง มุ่งมั่น และเป็นนักอุดมคติที่ไม่เคยมักใหญ่ใฝ่สูง ใช้ชีวิตเรียบง่ายสมถะ สวมเสื้อผ้าง่าย ๆ อาศัยในบ้านไม้หลังเล็ก ใช้เวลาว่างวาดรูปและเขียนบทกวี อ่อนน้อมถ่อมตน แต่มั่นคงในอุดมการณ์ ด้วยเหตุนี้ ชาวเวียดนามจึงรักและศรัทธา ทุกวันนี้ชาวเวียดนามและคนจากทั่วโลกยังคงไปเคารพสุสานและพิพิธภัณฑ์โฮ จิ มินห์อย่างไม่ขาดสาย ในโรงเรียนก็ยังมีการปลูกฝังเรื่องราวของลุงโฮ ต่อมาได้กำหนดให้วันเสียชีวิตของท่านคือวันที่ 2 กันยายนของทุกปีเป็น วันชาติของเวียดนาม และเปลี่ยนชื่อเมือง ไซ่ง่อน เป็น โฮ จิ มินห์ ซิตี้ เพื่อเป็นเกียรติแก่ลุงโฮด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: