นครพนม – เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้เกษตรกรชาวสวนสับปะรดกำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนจากราคาสับปะรดตกต่ำ และผลผลิตล้นตลาด เนื่องจากพื้นที่ อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน ถือเป็นพื้นที่แหล่งผลิตปลูกสับปะรดหวานขึ้นชื่อ ที่ใหญ่ที่สุดของ จ.นครพนม และยังเป็นพืชเกษตร และยังเป็นผลผลิตทางการเกษตร บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีรสชาติหวานฉ่ำ กลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ตาตื้น ที่สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรปีละหลาย 10 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน มีพื้นที่ปลูกมากกว่า 8,000 ไร่
แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ได้เกิดวิกฤติจากปัญหาผลผลิตล้นตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ มีพ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อหน้าสวน ประมาณกิโลกรัมละ 2 -3 บาท แต่ต้นทุนเฉลี่ยตกกิโลกรัมละประมาณ 3 บาท จากปกติราคาจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 10 -15 บาท หรือเคยมีปัญหาแค่ประมาณกิโลกรัมละ 8 -10 บาท ถือว่าราคาตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ต้องแบกภาระ และยอมขายขาดทุน อีกทั้งปีนี้ผลกระทบจากภาคเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีโรงงานมารับซื้อ รวมถึงในพื้นที่ไม่มีโรงงานแปรรูป พ่อค้าไม่เข้ามารับซื้อ ทำให้เกษตรกรต้อง ปล่อยสวนสับปะรดทิ้ง ซึ่งพื้นที่ 2 อำเภอ มี อ.โพนสวรรค์ และ อ.ท่าอุเทน มีผลผลิตเก็บออกสู่ตลาด ประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 50 ตัน ทำให้ล้นตลาด และส่งผลราคาตกต่ำ เกษตรกรต้องยอมขายในราคาขาดทุน เพราะไม่สามารถเก็บผลผลิตไว้ได้นาน ซึ่งได้ออกมาเรียกร้องไปยังทางจังหวัด และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกมาดูแลช่วยเหลือ หาทางระบายขาย
เบื้องต้นทางเกษตรจังหวัดนครพนม ได้เร่งหารือ กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ วางแนวทางการช่วยเหลือ พร้อมจะได้ประสานไปยังพ่อค้า แม่ค้า ต่างจังหวัด มาช่วยซื้อ ระบายออกสู่ตลาด รวมถึง วางแนวทางในการเกิดตลาดย่อย ให้เกษตรกร นำไปวางขาย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ช่วยซื้อให้เกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อน
ด้าน นางทิพย์ กวนคำอุ้ย อายุ 55 ปี เกษตรกร ชาว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตสับปะรดหวานขึ้นชื่อ ของอำเภอท่าอุเทน ซึ่งปกติทุกปีจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี รวมเงินหมุนเวียนสะพัดปีละหลาย 10 ล้านบาท เพราะเป็นผลผลิตการเกษตรคุณภาพ เป็นสับปะรดหวาน อร่อย กว่าที่อื่น ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด ส่งขายทั่วประเทศ แต่ปีนี้ผลผลิตออกจำนวนมากพร้อมกัน บวกกับโรงงานไม่มารับซื้อ เพราะมีปัญหาต้นทุนการผลิต ทำให้สับปะรดล้นตลาด ขายยาก ราคาตกต่ำ ต้องยอมขายขาดทุนหน้าสวน กิโลกรัมละ 2 -3 บาท จากปกติราคาหน้าสวนประมาณกิโลกรัมละ 8 -10 บาท ส่วนราคาตลาดทั่วไปประมาณกิโลกรัมละ 15 บาท แต่เกษตรกรต้องเร่งขายออก เพราะเป็นช่วงเก็บผลผลิต และไม่สามารถเก็บไว้นานได้ ต้องเร่งนำส่งขาย เพราะจะทำให้ผลิตเสียหาย อีกปัญหาสำคัญไม่มีโรงงานแปรรูป ทำให้เกษตรกร ต้องขนไปวางขายสดริมถนน และตลาดทั่วไป ต้องแบกภาระค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง ทั้งนี้วอนหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงประชาชน มาช่วยซื้อระบายผลผลิตสู่ตลาด เพราะหากไม่สามารถขายออกได้ ต้องขาดทุนหนักแน่นอน ยิ่งในช่วงเดือนมิถุนายน ยิ่งจะมีผลผลิตมากเท่าตัว จะทำให้เกษตรกรเดือดร้อนหนัก แต่หากจะขนส่งไปขายต่างจังหวัด จะต้องแบกภาระค่าขนส่งเพิ่มอีก
ข่าวน่าสนใจ:
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- ลำพูน บุกจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ ทำเนียนปลอมเป็นไรเดอร์ แต่วิ่งส่งบุหรี่ไฟฟ้า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: