นครพนม – วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีจังหวัดนครพนมประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลทั่วไปเพื่อบรรจุเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.) ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยปฏิบัติภารกิจในกองร้อย อส. และกองร้อยฯอำเภอ สังกัดกองบังคับการ อส.นครพนม จำนวน 28 อัตรา
โดยกำหนดคุณสมบัติเป็นชายอายุ 21-60 ปี แต่ก็ให้มีคะแนนพิเศษในการสอบสัมภาษณ์ กรณีเป็นบุตร อส.ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือเคยเป็นทหารกองหนุน อาสาสมัครทหารพราน และสำเร็จการศึกษาวิชาทหาร(รด.) ตั้งแต่ปีที่ 3 ขึ้นไป เป็นต้น
การสอบคัดเลือกแตกต่างจากปีที่ผ่านมา เพราะไม่มีการสอบข้อเขียน ใช้วิธีภาคปฏิบัติทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และสอบสัมภาษณ์เท่านั้น โดยกำหนดสอบพละกำลังในวันที่ 3 พฤศจิกายน หากผ่านเกณฑ์จึงจะเข้าสอบสัมภาษณ์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบคัดเลือกในวันที่ 8 พฤศจิกายน
ปรากฏว่ามีผู้ยื่นใบสมัครรวมทั้งสิ้น 387 คน และมีผู้ผ่านทะลุถึงรอบตัดเชือก จำนวน 163 คน ในจำนวนดังกล่าวจะได้เป็นตัวจริงบรรจุเป็น อส.ทันที 28 คน ส่วนที่เหลือจะเป็นตัวสำรองขึ้นทะเบียนไว้เป็นเวลา 1 ปี ในระหว่างหนึ่งปีหากมี อส.เสียชีวิต หรือลาออก ก็จะขยับขึ้นมาเป็นตัวจริงทันที
จากกรณีการเปิดรับสมัครด้วยเงื่อนไขดังกล่าว กลายเป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ด้วยการอ้างมีความสนิทสนมผู้ใหญ่ในจังหวัด เรียกรับเงินการบรรจุเป็น อส. สูงถึง 300,000 บาท มิจฉาชีพบางกลุ่มแอบอ้างเป็นสื่อมวลชนเดินสายเรียกเก็บจากผู้สมัคร เต็ม สามแสนแล้วหักค่าหัวคิวขอตีตั๋วเด็ก ส่งให้กรรมการคุมสอบเพียง 100,000 บาท ขณะที่ผู้จ่ายเงินก็เชื่อว่าคนกลุ่มนี้ สามารถฝากตนสอดแทรกเข้ามาอยู่ใน 28 ลำดับแรกได้ บางรายขอจ่ายครึ่งหนึ่งก่อน หากได้บรรจุจริงถึงจะจ่ายส่วนที่เหลือ
ล่าสุด นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดนครพนม ทราบเรื่องดังกล่าว ได้ยืนยันว่าการสอบบรรจุ อส.ฯ เป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีการเรียกรับเงินเด็ดขาด ส่วนจะมีใครแอบอ้างนั้นถ้ามีหลักฐานสาวถึงจะดำเนินการทางกฎหมายทันที
