ปราจีนบุรี – หนุ่มรับจ้างตัดไม้ยูคาฯดวงดับ หลังเลิกงานเดินข้ามถนน เจอรถตู้รับส่งพนักงานวิ่งชนลากร่างไปไกลกว่าร้อยเมตร น้องสาวมาเห็นถึงกับปล่อยโฮ กล้องหน้ารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 27 พ.ค.61 ร.ต.อ.ศักดิ์รินทร์ เกิดผล ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรม กบินทร์บุรี ว่าเกิดเหตุรถตู้ ชนคนเดินเท้า บริเวณถนนสาย 33 กบินทร์บุรี มุ่งหน้า สระแก้ว บ้านหนองโดน ม.10 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยสัจจะฯ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่เป็นผลสุดท้ายเสียชีวิตในที่สุดในที่เกิดเหตุ หลังจากรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสาย 33 ซึ่งเป็นที่มืด พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย สวมกางเกงยีนสีดำ เสื้อยืดสีเทา ทราบชื่อคือนาย กบ กองทุน อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 59 ม.9 ต.โคกคะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นคนงานรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัส นอนเสียชีวิต อยู่บริเวณข้างรถยนต์ยี่ห้อ โต้โยต้า สีบรอนเทา ทะเบียน 30-0655 ปราจีนบุรี โดยมีนายหงสราช นามเพ็ชร อายุ 48 ปี เป็นคนขับรถยนต์ตู้คันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถรับ-ส่งพนักงานของโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.กบินทร์บุรี
จากการตรวจสอบรถยนต์ตู้คันดังกล่าว พบว่าบริเวณด้านซ้ายหน้ารถมีร่องรอยของการเฉี่ยวชนจนกะจังหน้าหลุด ไฟหน้า กระจกแตก ซึ่งจากการสอบถาม นายหงสราช คนขับรถยนต์ตู้ ทราบว่า กำลังจะวิ่งไปส่งพนักงาน โดยวิ่งมาทางเลนขวา ขณะที่วิ่งมาถึงที่เกิดเหตุเป็นที่มืด มองไม่เห็นผู้เสียชีวิต มาเห็นอีกที่จนถึงตัวแล้ว ตนเบรกไม่อยู่เลยชนเข้าเต็มแรง และกล้องหน้ารถสามารถบันทึกภาพไว้ได้ขณะเกิดเหตุ
สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานและน้องสาวผู้ตาย คือ นางสาวสกุลรัตน์ กองทุน อายุ 26 ปี ซึ่งร้องไห้ปล่อยโฮหลังทราบว่าพี่ชายเสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายทำงานรับจ้างตัดไม้ยูคาฯ ช่วงที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้เดินข้ามถนนเพื่อที่จะไปซื้อของร้านค้าฝั่งตรงข้ามหลังจากเลิกงาน และมาทราบอีกที่ว่าถูกรถยนต์จนเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ร.ต.อ.ศักดิ์รินทร์ เกิดผล ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อจะมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศล ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะต้องสอบปากคำคนขับ และผู้เห็นเหตุการณ์อีกครั้งก่อนที่จะมีการดำเนินคดีต่อไป
————————-
ข่าว-ภาพโดย/สายชล หนูแดง
