ปราจีนบุรี – คนขับรถเก๋งวูบหน้ามืด ขับชนรถจักรยานยนต์นักเรียนหญิงวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี กลับจากโรงเรียนดับ
เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 29 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.อาทร จิตรถิ่น พนักงานสอบสวน สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุบริเวณหมู่ที่ 1 ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี กม.45-800 ถนนบ้านสร้าง-ปราจีนบุรี พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ จุดบ้านสร้าง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง Toyota Svanza ทะเบียน 1กล-6371 กทม. ตกอยู่บริเวณริมข้างทาง ทราบชื่อคนขับคือ นางจีรพรรณ นิลเกตุ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 เสรีไทย 83 แยก 1 แขวง,เขตคันนายาว กทม. ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย กู้ภัยสว่างบำเพ็ญ จุดบุญสร้าง นำส่งโรงพยาบาลบ้านสร้าง ให้แพทย์ทำการตรวจรักษาพร้อมกับบุตรหลาน 1 คน เป็นชายอายุ 20 ปี ซึ่งนั่งรถมาด้วยกัน
https://youtu.be/WAqioBbP71c
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านหน้าของรถเก๋งพบรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha SMax สีน้ำเงินทะเบียน 1กญ-5890 ปราจีนบุรี และพบศพเป็นหญิง 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้ารถเก่ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วิภาวรรณ สุขแจ้ง อายุ 16 ปี เป็นนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี ชั้น ปวช.ปี 1 ถูกชนเสียชีวิต
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ น.ส.รัชนี คงลอย อายุ 32 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่ตนขับรถกลับจากในตัวเมืองปราจีนบุรี พร้อมกับแฟนพบรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เสียชีวิต ขับออกหน้ามาและมีรถเก๋งวิ่งข้ามเลนมาชนรถน้องอย่างเต็มแรง ตนตกใจจึงหักหลบออกทางด้านขวา และจอดรถลงมาดู พร้อมกับโทรแจ้ง 1169 มาช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคู่กรณีทราบว่า ตนกำลังจะเดินทางมาจากกรุงเทพฯเพื่อจะไปส่งหลานที่ปราจีนบุรี พอถึงที่เกิดเหตุตอนนั้นมองไม่เห็นทางและรู้สึกว่า มืดและรู้ตัวอีกทีตอนที่รถตกลงไปข้างทางแล้ว และยังได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พี่มาเส้นนี้ประจำ และเมื่อปีที่แล้วตนได้มากับสามี เล่าเหตุการณ์ว่า ขณะที่ตนขับรถมากับสามีนั้นสามีของตนเห็นผู้หญิงนั่งอยู่ท้ายรถ ตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพียงแต่บอกว่า เดินทางใครทางมัน จนมาวันนี้ จนได้รับอุบัติเหตุจนได้
โดย ป้าจีรพรรณ นิลเกตุ มีโรคประจำตัว ความดันไขมันสูงและเป็นโรคเบาหวาน อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ป้าวูบไปก็เป็นได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวคนขับรถรายนี้ไปสอบสวนเพิ่มเดิมอีกครั้ง
—————————-
ภาพ/ อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์
ข่าวโดย/วัฒนา พวงสมบัติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: