สระแก้ว – ทหารจับกุมกลุ่มลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกเขมร 28 ตัน ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรฯ พร้อมเทข้าวประท้วงทหาร หลังถูกจับกุมและยึดข้าวทั้งหมด พร้อมทั้งรวมตัวกดดันเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา ด้วย
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้สนธิกำลังเข้าสกัดจับกุมพ่อค้าและนายทุนที่ประกอบกิจการลักลอบนำข้าวเปลือกจากฝั่งประเทศกัมพูชา ข้ามมายังประเทศไทยโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวนาในประเทศว่า มีการนำข้าวเปลือกจากกัมพูชาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศไทยตกต่ำลง โดยสินค้าประเภทข้าวเปลือกถือว่า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าเด็ดขาด ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องเร่งกวดขันในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ตาพระยา และ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อไม่ให้กระทบกับผลผลิตข้าวในประเทศไทย ที่กำลังมีการเก็บเกี่ยวในปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าจับกุมขบวนการขนข้าวเปลือกข้ามชายแดนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระบุว่า กลุ่มพ่อค้าชาวไทยและขบวนการขนข้าวเขมรเข้าประเทศ มักใช้ช่องทางตามธรรมชาติต่าง ๆ ตั้งแต่ช่อง ต.03 ไปจนถึง ต.19 ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นเส้นทางลักลอบนำเข้า จึงส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าสกัดจับตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับและตรวจยึดรถยนต์ขณะบรรทุกข้าวเปลือกจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน กำลังนำเข้าประเทศจำนวนหลายคัน จึงยึดไว้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ นายอาระยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา เดินทางลงพื้นที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจา ภายหลังเกิดการถกเถียงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและพ่อค้าลักลอบนำข้าวเข้าประเทศ หลังถูกยึดรถและข้าวเปลือก ที่บริเวณบ้านคลองแผง ม.10 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งกลุ่มพ่อค้าชาวไทยได้นำรถบรรทุกข้าวเปลือก มาเทกองบนถนนปิดเส้นทางสัญจรบริเวณเส้นทางไปยังด่านช่องตาพระยา-บึงตะกวน ประเทศกัมพูชา ซึ่งพ่อค้าข้าว ยอมรับว่า ตนเองทำผิดกฎหมาย แต่มีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ไปแล้ว เหตุใดจึงถูกจับกุม ในขณะที่บางรายไม่ถูกจับ จึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่
ซึ่งภายหลังจากการเจรจาไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้นำรถบรรทุกเคลื่อนย้ายข้าวเปลือกของกลางที่ถูกเทลงบนถนนทั้งหมด ไปเก็บรักษาไว้เพื่อตรวจสอบที่หน่วยเฉพาะกิจตาพระยาด้วย ซึ่งมีรายงานว่า กระบวนการขนข้าวกัมพูชาเข้าประเทศไทยเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ทั้งช่วงก่อนและหลังฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวในประเทศ ส่วนใหญ่จะมีการเคลียร์เส้นทางไว้แล้วและดำเนินการโดยผู้นำท้องถิ่นทั้งสิ้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.ภายหลัง นายอาระยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา เข้ามาเจรจาให้นำรถที่ปิดกั้นเส้นทางออก จากนั้น นายอำเภอตาพระยา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ฉก.ตาพระยา, ชค.ตชด.12, สภ.ทัพไทย และเจ้าหน้าที่ศุลกากร จ.สระแก้ว ร่วมกันเจรจากับกลุ่มผู้ลักลอบนำข้าวเข้าประเทศ โดยได้ข้อยุติ คือ เจ้าหน้าที่จะตรวจยึดข้าวเปลือก ประมาณ 28 ตัน นำไปเก็บไว้ที่ ศุลกากร จ.สระแก้ว ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้รับเป็นเจ้าของข้าวลักลอบดังกล่าว และมีการคืนรถที่ใช้บรรทุกข้าวเปลือกให้กับกลุ่มผู้ลักลอบฯ ที่รับจ้างเคลื่อนย้ายข้าวเปลือก ประกอบด้วย รถไถพ่วง จำนวน 4 คัน, รถอีแต๊ก จำนวน 2 คัน และรถยนต์บรรทุกปิกอัพ จำนวน 1 คัน แต่ภายหลังยุติการเจรจากลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว ประมาณ 10 คน ได้ไปรวมตัวกันอยู่บริเวณทางเข้ากองบัญชาการ ฉก.ตาพระยา บริเวณหัวเขาเส้นทางสาย 348 ไป อ.ตาพระยา เพื่อขอเข้าพบเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารเพื่อขอคืนข้าวของกลางอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ทราบผลการเจรจาดังกล่าว
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: