สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งเข้มชายแดนปัญหาลักลอบนำเปลือกเขมรเข้าไทย อำเภอและทหาร เรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ประกอบการ ชาวบ้านแนวชายแดน สั่งเฉียบขาดห้ามเด็ดขาดทุกเส้นทาง ห้ามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนเข้าไปเกี่ยวข้อง และหากมีผู้ประกอบการหรือชาวบ้านการขัดขวางการจับกุม จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา เข้าจับกุมขบวนการลักลอบนำข้าวเปลือกจากประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศกว่า 28 ตัน และมีการเทข้าวประท้วงทหารปิดถนนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. และจับกุมเพิ่มเติมได้อีก 7.7 ตัน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด ทางอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว ได้จัดประชุมเพื่อแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือก ที่ห้องประชุมอำเภอตาพระยา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ นายอำเภอตาพระยา ,ทหาร ฉก.ตาพระยา , ชุด ชค.ตชด.12, สภ.ตาพระยา ,สภ.บ้านทัพไทย, ชุด ชพส.คด01 ,ศุลกากรอรัญประเทศ, ตม.สระแก้ว ,ชุดประสานงานประจำพื้นที่ อ.ตาพระยา , กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านชายแดน 19 หมู่บ้าน และผู้ประกอบการรับซื้อพืชผลทางการเกษตร 8 ราย
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ศุลกากร, เจ้าหน้าที่ ตม., และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านทัพไทย ได้ชี้แจงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือก และกฎหมายการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ประกอบการได้รับทราบ สำหรับสินค้าทางการเกษตรต้องผ่านพิธีการทางศุลกากรและต้องนำเข้าหรือส่งออกเฉพาะจุดผ่อนปรนบ้านตาพระยาเท่านั้น ช่องทางอื่น ๆ ไม่สามารถนำเข้าได้
โดยเจ้าหน้าที่แจ้งกับกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้ประกอบการว่า สำหรับข้าวเปลือกถือเป็นสินค้าเกษตรต้องห้าม ไม่สามารถนำเข้ามาในราชอาณาจักรได้ ไม่ว่าซ่องทางใด ๆ ทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมและยึดสินค้าดังกล่าว และด่านศุลกากรอรัญประเทศจะดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และหากมีการฝ่าฝืนและขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เช่น การเทข้าวกีดขวางการจราจร หรือชุมนุมประท้วงเจ้าหน้าที่ จะส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้กำหนดมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือก ดังนี้ 1.ห้ามมีให้มีการนำเข้าข้าวเปลือกเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเด็ดขาด ไม่ว่าช่องทางใด 2.กรณีมีการจับกุมข้าวเปลือกที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หากมีการขัดขวาง จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด 3.กรณีการนำเข้าข้าวเปลือกตามวิถีชายแดนเพื่อการอุปโภค บริโภค ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ 4.สำหรับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน ห้ามมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำเข้าข้าวเปลือกโดยเด็ดขาด รวมถึงให้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่าผู้ใดเข้าไปมีส่วนร่วมหรือปล่อยปละละเลย จะดำเนินการลงโทษตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวระหว่างร่วมงานมูลนิธิรัฐบุรุษว่า ข้าวเปลือกเป็นสินค้าที่ห้ามนำเข้า จ.สระแก้วมีพื้นที่ติดชายแดน 165 กม.ตั้งแต่ตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศและคลองหาด โดย อ.ตาพระยาได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตามแนวชายแดนและผู้ประกอบการในพื้นที่ 7-8 ราย ขอความร่วมมือเพื่อไม่ให้สินค้าข้ามแดนเข้ามา แต่ถ้าเป็นวิถีชายแดนที่คนไทย ครอบครัวไปทำไว้ก็ให้ดูแลกันและทำความเข้าใจกันตามแนวชายแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่กองกำลังบูรพา ตชด. ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอำเภอตาพระยาก็ได้ประชุมหน่วยงานทั้งหมดพร้อมกำชับให้เข้มงวดกวดขันไม่ให้มีการนำเข้ามาอีก เพราะกระทบต่อผลผลิตการเกษตรในประเทศ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า ในสวนของเจ้าหน้าที่และผู้นำหมู่บ้านที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว จะดำเนินการทางวินัยตามระเบียบของทางราชการทันที เชื่อว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น ปัญหาน่าจะเบาบางลง โดยมีการตั้งด่านตามแนวชายแดนทุกระยะ พร้อมเข้มงวดกวดขันมากยิ่งขึ้นหลังจากนี้
ทางด้าน พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา กล่าวถึงปัญหานี้ว่า ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งกองกำลังบูรพา โดยมี ฉก.ตาพระยา รับผิดชอบพื้นที่อยู่นั้น มีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการนำเข้ามาโดยเด็ดขาด ซึ่งหลังเกิดปัญหาทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกคุยกับผู้ประกอบการและชาวบ้านที่เข้าไปดำเนินการแล้ว หลังจากนี้หากพบมีการทำความผิดอีก เจ้าหน้าที่จะจับกุมทันทีหลังได้พูดคุยกันแล้ว ซึ่งทุกจุดตามแนวชายแดนห้ามนำเข้ามาเด็ดขาด
——————————-
