สระแก้ว – อำเภอตาพระยาและกัมพูชา เรียกประชุมร่วมไทย-กัมพูชา ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา จับกุมพ่อค้าลักลอบขนมะพร้าวเถื่อนเขมร 20,000 ลูก เข้าประเทศไทยโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ด้าน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมหารือประสานแนวทางแก้ปัญหาการลักลอบนำสินค้าเกษตร อาทิ ข้าวเปลือกสินค้าต้องห้ามและอื่น ๆ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เข้าจับกุมการลักลอบขนมะพร้าวเถื่อน จากประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย บริเวณพื้นที่หมู่บ้านมะกอก ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ตรวจพบลูกมะพร้าวเต็มรถบรรทุกพ่วงเทลเลอร์ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ในบ้านเลขที่ 123 ม.6 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งผลการตรวจค้นพบมะพร้าวแห้งปลอกเปลือกอยู่ในเทลเลอร์พ่วงดังกล่าวจำนวนมากถึง 20,000 ลูก จึงสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงให้การว่า ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใดและไม่มีใครมาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของ จึงประสานงานแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ ,ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อเข้าตรวจสอบและทำการตรวจยึดดังกล่าว ซึ่งหากมีการจับกุมผู้ลักลอบได้ถือว่า เป็นความผิดข้อหานำของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาจมีความผิดตามกฎหมาย อันเป็นความผิดตามมาตรา 242, 246 ประกอบมาตรา 252 , 166 ,167 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560
ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า มะพร้าวดังกล่าว นำเข้ามาจากฝั่งกัมพูชาโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร มาจาก บ.โอกัมบด ต.โคกระเมียด อ.ทมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย และเข้าสู่ประเทศไทยที่บริเวณเส้นทางธรรมชาติระหว่าง จุด ต.10-11 ผ่าน บ.ร่มไทย ม.9 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว มาตามเส้นทางร่องน้ำเข้าหลังหมู่บ้านร่มไทร แล้วนำไปจอดไว้ในบ้านมะกอก ม.6 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จนถูกจับกุม ทั้งนี้ มะพร้าวดังกล่าวมีรายงานว่า มาจากประเทศเวียดนามและมีราคาถูกกว่าฝั่งประเทศไทยเกือบ 10 บาท จึงจูงใจให้มีการขนส่งมาซุกซ่อนไว้บริเวณแนวชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อสบโอกาสจึงมีการนำเข้ามาขายต่อในประเทศไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่่ผานมามีการจับกุมลักษณะเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาค 1 ได้ที่บริเวณริมถนนธนะวิถี ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 7,000 ลูก มูลค่า 200,000 บาท ด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงผลปฏิบัติการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” ยึดยาบ้ากว่า 400,000 เม็ด
- มุกดาหาร ชาวคริสต์นับหมื่น ร่วมฉลอง 84 ปี วีรกรรมแห่งความเชื่อ ณ สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขีสองคอน
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์อุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอท่าฉาง พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ล่าสุด ที่อำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว ได้มีการประชุมร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา ในการประชุมโครงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนในพื้นที่ชายแดน ที่ห้องประชุมอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว โดยมีนายอาระยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา เป็นประธานร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ร่วมกับ อำเภอทมอพวก และอำเภอสวายเจก จว.บันเตียเมียนเจย ฝ่ายกัมพูชา มีนายยง ยืน รักษาการแทนนายอำเภอทมอพวก , นายสุด งุย รักษาการแทนนายอำเภอสวายเจก ร่วมเป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ,ข้าราชการ ,หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายไทย จำนวน 40 คน , ฝ่ายกัมพูชา จำนวน 50 คน เพื่อหารือความร่วมมือด้านต่าง ๆ และการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ ตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ สาระสำคญในการประชุม ฝ่ายไทย หารือเรื่องการนำสินค้าทางการเกษตร เข้า-ออกราชอาณาจักร คือ ข้าวเปลือก ประเทศไทย ห้ามนำเข้า โดยทางรัฐบาลไทยให้เข้มงวดกวดขัด ห้ามนำข้าวเปลือกเข้ามาฝั่งไทยโดยเด็ดขาด และสินค้าเกษตรอื่น ๆ ที่ไม่ถูกต้อง ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จึงขอให้ทางฝ่ายกัมพูชา ประชาสัมพันธ์ให้ทางกัมพูชาได้รับทราบ ในการห้ามนำข้าวเปลือกเข้ามาฝั่งไทย ส่วนเรื่องการนำเข้าหัวมันสำปะหลัง สามารถนำเข้ามาฝั่งไทยได้ แต่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับมันเส้นและมันสับ สามารถนำเข้าได้ตลอดทั้งปี และในช่วง 1 ธ.ค.62-61 มี.ค.63 ของดการนำเข้าหัวมันสำปะหลังเข้ามาฝั่งไทย ในช่วง 4 เดือนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย
ส่วนปัญหาเรื่องการเข้า-ออก ของชาวไทย และชาวกัมพูชา ช่องทางที่ถูกต้อง คือ ช่องทางตาพระยา-บึงตะกวน และช่องทางอนุโลม ถ้าทางกัมพูชา อนุญาตหรือไม่อนุญาต ช่องทางไหน ขอให้แจ้งทางฝั่งไทยให้ทราบล้วงหน้าก่อน เพราะกลัวจะมีผลกระทบกับประชาชนทั้งสองฝั่ง รวมทั้งปัญหาเรื่องการโจรกรรมรถยนต์ ,รถจักรยานยนต์ ฝ่ายไทยขอขอบคุณที่ทางฝ่ายกัมพูชา ให้ความร่วมมือในเรื่องดังกล่าว เช่น รถถูกโจรกรรม ก็ประสานงานกันในการติดตามรถกลับคืนมา เพื่อส่งมอบให้เจ้าของคืนได้ โดยฝ่ายกัมพูชา ได้หารือและชี้แจงว่า ทาง อ.ทมอพวก และ อ.สวายเจก เห็นด้วยในทุกประเด็น ที่ฝ่ายไทยหารือ ทาง อ.ทมอพวก และ อ.สวายเจก ก็จะมีจุดผ่านเข้า-ออก เล็ก ๆ เพื่อทำการแลกเปลี่ยนสินค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น และทางอำเภอจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนและผู้ประกอบการที่อยู่ตามแนวชายแดน ให้ทราบว่า สิ่งไหนที่ทางรัฐบาลไทยขอความร่วมมือหรือห้ามนำเข้าบ้าง
อย่างไรก็ตาม มีการพูดถึงเรื่องปัญหาแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทยในปัจจุบัน แรงงานส่วนใหญ่จะเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย เรื่องเเรงงานจะไม่ค่อยมีปัญหานักในปัจจุบัน ทั้งนี้ ทาง อ.สวายเจก อยากจะขอให้ทางฝ่ายไทย พิจารณาในการเปิดด่านทางช่องทาง จังกาโก เพื่อความสะดวกในการสัญจรของประชาชนทั้งสองฝั่งเพิ่มเติมอีก 1 จุดในอนาคตด้วย นอกจากนั้น ภายหลังจบการประชุมร่วมกันของทั้งสองประเทศ คณะฝ่ายไทย และคณะฝ่ายกัมพูชา ได้ร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคี ในโครงการผ้าป่าข้าวเปลือก เพื่อนักเรียนในอำเภอตาพระยา โดยทางอำเภอตาพระยา จะได้นำข้าวเปลือกที่ชาวบ้านนำมาถวายในการทอดผ้าป่าในครั้งนี้ ไปแจกจ่ายให้กับทางโรงเรียนในพื้นที่อำเภอตาพระยาต่อไป
——————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: