สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งปิดถ้ำน้ำเขาศิวะ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง จ.สระแก้ว หวั่นซ้ำรอยเชียงราย พร้อมส่งทีมกู้ภัยมูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมอรัญประเทศ เข้าร่วมสมทบช่วยค้นหา 13 ชีวิต ถึง จ.เชียงรายแล้ว
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยว 13 คน ติดอยู่ภายในถ้ำเขาหลวงฯ จ.เชียงราย นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย ป้องกันจังหวัด อำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบลคลองไก่เถื่อนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 30 คน เดินทางลงพื้นที่ถ้ำน้ำเขาศิวะ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลอหาด จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบการให้บริการและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ซึ่งทาง อบต.ได้นำป้ายคำเตือนและข้อปฏิบัติในการเที่ยวชมถ้ำน้ำมาติดตั้งบริเวณปากถ้ำและหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โดยห้ามนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมถ้ำโดยลำพัง โดยไม่มีผู้นำทางหรือเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งงดเข้าเที่ยวชมถ้ำในขณะที่สภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกหนักด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วมาถึง ได้เดินตรวจบริเวณรอบนอก และเข้าไปตรวจสอบภายในบริเวณทางเข้าปากถ้ำน้ำเขาศิวะ ซึ่งมีปริมาณน้ำเต็มทางเข้าจนส่วนหนึ่งได้ไหลล้นออกมาภายนอก โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.อธิบายเส้นทางการเข้าถ้ำและการเข้าเที่ยวชมภายในถ้ำ เพื่อชมหินงอกหินย้อยที่สวยงามภายในน้ำด้วย ซึ่งทุกคนต้องมีเสื้อชูชีพ ไฟส่องสว่าง และมีผู้นำทางเท่านั้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ยังคงเห็นว่า น่าจะยังไม่ปลอดภัยเต็มร้อย จึงสั่งการให้ปิดถ้ำชั่วคราวไปก่อน
นายพรพจน์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ความยาวของถ้ำเข้าไปประมาณ 330 เมตร แต่ภายในถ้ำมีน้ำที่ไหลตลอดเวลา ลึกประมาณ 1.5 เมตร ถึง 2 เมตร และช่วงนี้เพื่อความปลอดภัยจึงสั่งการให้ปิดถ้ำน้ำเขาศิวะไปก่อนชั่วคราว ซึ่งหลังจากปิดแล้ว ทางหน่วยงานต้องทำป้ายประกาศให้ชัดเจน ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้ง อ.คลองหาดและจังหวัดสระแก้วด้วย เพราะเราเก็บค่าบริการ 40 บาท หากเกิดอะไรขึ้นจะไม่คุ้ม พร้อมทั้งส่งกำลังใจถึงน้อง ๆ ที่ติดอยู่ในถ้ำเขาหลวงฯ จ.เชียงรายด้วย
นายพรชัย นราแก้ว รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองไก่เถื่อน กล่าวว่า ในช่วง 10 กว่าปีไม่เคยเกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวพลัดหลงในถ้ำเขาศิวะ เนื่องจากได้มีมาตรการป้องกันไว้แล้ว โดยจะมีชุดนำทางเข้าถ้ำที่เป็นมืออาชีพ และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปโดยลำพัง เพื่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของพื้นที่ ซึ่งระยะทางไปกลับประมาณ 760 เมตร ที่เปิดให้เข้าเที่ยวชม ส่วนที่ลึกไปกว่านั้น จะต้องมุดน้ำเข้าไปลึกมาก ส่วนใหญ่จะไม่มีใครเข้าไป
ทางด้าน แม่ค้าขายของบริเวณด้านหน้าถ้ำรายหนึ่ง เล่าว่า ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวถ้ำเลย ส่วนใหญ่มากันเป็นรถ แต่พอเข้าไปที่ปากถ้ำก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป ส่วนใหญ่บอกว่า กลัวและเห็นข่าวเด็กหลงถ้ำที่ จ.เชียงราย ส่วนใหญ่มาแล้วก็จะไม่กล้าเข้าไป ทั้งที่ปกติ 1 สัปดาห์ จะมีคนมาเข้าเที่ยวถ้ำประมาณ 40-50 ราย โดยเฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีก่อน เคยมีเหตุการณ์นักเรียน 6 คน เข้าไปเที่ยวถ้ำน้ำแล้วเกิดพลัดหลงกันอยู่ข้างในครั้งหนึ่ง ออกมาได้แค่ 5 คน แต่ก็ใช้เวลาหากันนานมากกว่าจนมืดค่ำ ญาติต้องบนหัวหมู 7-8 หัว จึงพบตัว
“ช่วงที่ฝนตกหนัก ๆ ถ้าหากเข้าไปในถ้ำแล้วเห็นน้ำสีแดง ๆ จะต้องรีบออกมา เพราะน้ำในเขาจะไหลเข้าไปในถ้ำและทะลักออกมาที่บริเวณปากถ้ำ ก่อนจะไหลลงมาด้านล่าง ล้นข้ามถนนตรงที่ป้าขายของอยู่นี่เลย เมื่อไหร่ที่เจอน้ำขุนจะอันตราย และเขาจะไม่ให้ใครเข้าไปช่วงนั้นเด็ดขาด” แม่ค้ารายเดิม กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมทีมงาน รวม 6 นาย นำน้ำ เครื่องดื่มและอุปกรณ์ช่วยชีวิต เดินทางเข้าร่วมสมทบทีมกู้ภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย ตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยทีมงานมูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมอรัญประเทศ ได้รับฟังสถานการณ์ ร่วมวางแผนและมอบหมายให้ทีมสว่างเที่ยงธรรมอรัญประเทศ รับทราบคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในการมอบหมายงานการเข้าร่วมทีมค้นหา 13 ชีวิต นักฟุตบอล-โค้ชทีมหมู่ป่าอาคาเดมี่ด้วย
