สระแก้ว – สถานการณ์ปัญหาฝุ่นและมลพิษ จ.สระแก้ว ยังพุ่งไม่หยุด PM 2.5 สูงต่อเนื่อง จนอยู่ในภาวะเริ่มมีมีผลกระทบต่อสุขภาพต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ส่วนเกษตรยังระดมเผาไม่หยุด ด้านผู้เดือดร้อนจากการเผาเรียกร้องหยุดสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 20 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคตะวันออก จากเครื่องตรวจวัดอัตโนมัติที่ติดตั้งตามจังหวัดต่าง ๆ ของกรมควบคุมมลพิษ เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.63) พบว่า คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 43 – 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานสูงสุดที่บริเวณ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,รองลงมาที่ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ สระแก้ว 73 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ ต.วังเย็น อ.แปลงยาว ฉะเชิงเทรา 62 มก/ลบ.ม., ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา ชลบุรี 60 มก/ลบ.ม., ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง ระยอง 60 มก/ลบ.ม. , ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา ชลบุรี 56 มก./มล.ม., ต.บ้านสวน อ.เมือง ชลบุรี 55 มก./ลบ.ม., และ ต.เนินพระ อ.เมือง ระยอง 54 มก./ลบ.ม. ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ค่า AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) ที่รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไปของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อรายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ โดยใช้ดัชนีคุณภาพอากาศ 1 ค่า ใช้เป็นตัวแทนค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิดนั้น พบว่า จังหวัดสระแก้ว มีค่าตรวจวัดพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม ทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยพุ่งสูงไปอยู่ที่ระดับ 157 จากเดิมที่ เมื่อวานนี้อยู่ที่ระดับ 152 และวันก่อนหน้าที่ จ.สระแก้ว บูรณาการฉีดพ่นไอน้ำในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ อยู่ที่ระดับเพียง 151 เท่านั้น ส่งผลทำให้คุณภาพอากาศ จ.สระแก้ว อยู่ระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์การเผาไร่อ้อยในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังคงมีการเผาเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยกระจายอยู่ในพื้นที่เพาะปลูก 6 อำเภอ จำนวนกว่า 500,000 ไร่ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบไร่อ้อยในพื้นที่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว พบการเผาไร่อ้อยกระจายอยู่ทั่วบริเวณหลายจุด โดยไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเกิดหมอกควันปกคลุมทั่วพื้นที่จำนวนมาก บางจุดพบเห็นผู้นำหมู่บ้านเข้าไปควบคุมการเผาไร่อ้อยด้วยตนเองด้วย
ทางด้าน นายแก้ว นิลละออ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264 ม.6 ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ผู้ได้รับผลกระทบจากการเผาไร่อ้อย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาจากการเผาไร่อ้อยด้านหลังป่ายูคาลิปตัสของตนเอง ทำให้ไฟลุกลามมาที่ป่ายูคาฯ ได้รับความเสียหาย ตนก็พยายามจะเข้าไปดับโดยไม่ห่วงชีวิตจนเป็นลมภายในป่า ซึ่งเกิดจากไร่อ้อย ทำให้ต้นยูคาฯ เสียหายประมาณ 2 ไร่ 700 กว่าต้น แต่ทางไร่อ้อยไม่ยอมรับผิดชอบอะไรเลย อ้างว่าไปหาเงิน จนต้องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ เรียกร้องให้มีการจ่ายค่าเสียหายกันซึ่งจนถึงขณะนี้คนทำไร่อ้อยยังไม่ยอมรับผิดชอบใด ๆ บอกแค่ว่า อยากได้ให้ไปฟ้องเอา
“การเผาไร่อ้อย ทำให้สิ่งแวดล้อมทุกอย่างเสียหมด คนทำไร่อ้อย ตัดอ้อยแล้ว ไม่ควรจะเผาให้เกิดผลกระทบกับคนอื่น ไม่อยากให้มีการเผา ควรใช้วิธีอื่น ๆ เพราะทำให้ทุกคนได้รับผลกระทบกระเทือนไปหมด เพราะไม่ได้กันไฟไว้เลย ชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็ได้รับผลไปด้วยทั้งไร่มันและป่ารอบ ๆ ข้าง ” นายแก้ว กล่าว
——————————-
