ปราจีนบุรี – คณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานประทานเหมืองแร่ทรายแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม อบต.คำโตนด อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุมศึกษาดูงานเรื่อง “ร้องเรียนคัดค้านการให้ประทานเหมืองแร่ทรายแก้ว” ต.คำโตนด อ.ประตันตคาม จ.ปราจีนบุรี ด้วย นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ตัวแทนชาวบ้านทุ่งสบก ม.10 ต.คำโตนด อ.ประตันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้ยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม เพื่อร้องเรียนคัดค้านการให้ประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว ซึ่งมีบริษัทสินทรัพย์ธรรมชาติ ได้ขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว จำนวน 3 ใบ คือคำขอประทานบัตรที่ 1-3/2560 แต่ในการประชุมประชาคม บ้านทุ่งสบก ม.10 ต.คำโตนด ในวันที่ 24 ต.ค.62 ณ ศาลาประชาคม ไม่เห็นด้วยกับการขอประทานบัตรของบริษัทดังกล่าว ด้วยเหตุผลคือ การขอประทานบัตร 3 ใบ 1-3/2560 การสัมปทานพื้นที่ 528 ไร่ อยู่ใกล้หมู่บ้านหลายหมู่บ้านตั้งแต่ เขต ม.1-8-10-11-12 หากมีการสัมปทานจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัย และการประกอบอาชีพของประชาชน
ทั้งนี้ เหมืองแร่ทรายแก้วดังกล่าว ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมที่จะทำเหมืองแร่ทรายแก้ว เช่น ตั้งอยู่ในเขตที่แห้งแล้ง ราษฎรในพื้นที่จะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรทุกปีในฤดูแล้ง การทำเหมืองแร่ทรายแก้ว เป็นกิจกรรมที่ใช้น้ำมากและเป็นกิจกรรมมาเปิดหน้าดิน จะส่งผลกระทบต่อธรณีวิทยาและอุทกวิทยาและขาดน้ำได้ ในการนี้ผู้ร้องจึงให้คณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรมพิจารณาศึกษาและสอบหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว เพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ว่าการให้ประทานบัตรดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่
จากการวิเคราะห์ประเด็นการพิจารณา ต้องพิจารณาขั้นตอนและกระบวนการขอประทานบัตรเป็นอย่างไร และดำเนินการเพื่อขอประทานเหมืองแร่ทั้ง 3 ใบหรือไม่ ได้รับการชี้แจงจากส่วนที่เกี่ยวข้องจากส่วนอุตสาหกรรมว่า การขออนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ทั้ง 3 ใบ ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขอประทานบัตร ยังไม่มีการอนุญาตให้สัมปทานแต่อย่างใด แต่เมื่อมีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ หน่วยงานที่เป็นผู้ให้อนุญาต จึงควรรับฟังความคิดเห็นในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่ หากพิจารณาอนุญาตให้ประทานบัตรเหมืองหิน ต้องมีเหตุผลที่เพียงพอและสามารถชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจได้
สำหรับกรณีดังกล่าว อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพาดพิงว่า เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในบริษัทดังกล่าว ออกมาชี้แจงว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่ยอมรับว่า มีการซื้อขายที่ให้กับผู้อื่นเท่านั้น และตนได้สอบถามผู้เกี่ยวข้องแล้ว ได้รับคำตอบว่า ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ ตนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการฯ ได้ประชุมอยู่ด้านใน ชาวบ้านนับร้อยคนได้ออกมาถือป้ายคัดค้าน และรับฟังการประชุมอยู่ด้านนอก หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมทุกคนดีใจที่ผู้ประกอบการยังไม่ผ่านกระบวนการใด ๆ จากนั้นคณะกรรมมาธิการออกมาพบปะกับประชาชนที่มารับฟังอยู่ด้านนอก และกล่าวกับประชาชนว่า เรื่องนี้ขอให้ประชาชนใจเย็น ๆ ไม่มีการทำการใด ๆ ขึ้นมายังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องใช้เวลาอักระยะหนึ่ง คณะทำงานจะดูแลเรื่องนี้ให้อีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่า หากไม่ผ่านการประชาคม ก็ไม่สามารถเปิดให้ทำเหมืองแร่ทรายแก้วได้เด็ดขาด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามประชาชนในพื้นที่ ทุกคนบอกไม่ต้องการให้เหมืองแร่ทรายแก้วเกิดขึ้นในพื้นที่ ชาวบ้านจะไม่ยอมให้ผู้ประกอบการทำเหมืองแร่ในพื้นอย่างแน่นอน ขอคัดค้านให้ถึงที่สุด
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง
