ปราจีนบุรี – พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ยังคงเกินค่ากำหนดมาตรฐานและมีค่าสูงเป็นอันดับ 1 ของภาคตะวันออก
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาเรื่องฝุ่นพิษปัจจุบันนี้สังคมตื่นตัว ประชาชนหันมาให้ความสนใจเรื่องมลพิษในอากาศอย่างจริงจังและติดตามอย่างใกล้ชิด ยิ่งมีแอพลิเคชั่นให้ผู้คนได้มีโอกาสเข้าไปเช็คสภาพอากาศกันได้เท่าที่อยากเช็ค ก็ยิ่งทำให้ตรวจสอบกันถี่ขึ้น ขณะนี้ในส่วนของภาคพลเมือง ผู้คนตระหนักรู้มากขึ้น มีการเตรียมป้องกันดูแลตัวเองเบื้องต้น ทั้งเรื่องการหลีกเลี่ยงไม่อยู่กลางแจ้ง และเมื่อต้องเดินทางก็จะใช้หน้ากากอนามัย ซึ่งก็ทำให้รู้จักหน้ากากอนามัยที่มีอยู่หลายแบบ รวมถึงวิธีใส่อย่างไรให้ถูกวิธี ฯลฯ ขณะที่ในส่วนของภาครัฐเองได้ดำเนินการแก้ปัญหาแบบองค์รวมเป็นรูปธรรมและชัดเจน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและระยะสั้นเท่านั้น ทำให้น่าเป็นห่วง เพราะนอกจากภัยธรรมชาติที่กำลังโหมกระหน่ำทั่วโลก แต่ภัยจากน้ำมือมนุษย์ที่ทำร้ายทำลายสภาพแวดล้อม จนกลายเป็นมลพิษในอากาศ กำลังคร่าชีวิตมนุษย์รายวัน ที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือลูกหลานของเรา
เด็กตัวน้อยที่เกิดมาก็ต้องมารับผลกรรมจากผู้ใหญ่ในยุคก่อนหน้านี้จนมาถึงยุคปัจจุบัน ฝุ่นจากมลพิษทางอากาศเป็นอันตรายต่ออวัยวะทุกระบบ เป็นอันตรายต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ทำให้ทารกในครรภ์สัมผัสกับฝุ่นพิษเหล่านี้ได้ง่ายเช่นกัน เด็กเป็นวัยที่เสี่ยงต่อมลพิษทางอากาศมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากปอดของเด็กกำลังเติบโต และระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังอยู่ในระยะที่กำลังพัฒนา การเผชิญกับมลพิษในอากาศจะขัดขวางการเจริญเติบโตของปอดในเด็กวัยเรียน และสมองของเด็กๆ ยังคงพัฒนา ฉะนั้น สารพิษต่อประสาทในมลพิษทางอากาศ สามารถส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศมากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการลดลงของเจริญเติบโตของปอด ซึ่งปอดอาจไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้เต็มประสิทธิภาพ และการทำงานของปอดที่ลดลงโดยเฉลี่ยนั้น คล้ายกับผลกระทบของการเติบโตขึ้นในบ้านที่มีผู้ปกครองที่สูบบุหรี่ เมื่อคุณภาพอากาศแย่ลง อัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจะสูงขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับมาตรการระยะกลางและระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ในบ้านเราต้องรีบดำเนินโดยด่วน รัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะมันหนักหน่วงมาก ส่งผลกระทบต่อคนในชาติอย่างมาก คนอยู่อาศัยในเมืองแม้จะอยู่ในพื้นที่ปิดขนาดไหน ก็ยังยากที่จะหาอากาศบริสุทธิ์หายใจได้ บ้านที่มีกระจกหน้าต่าง 2 ชั้น ก็ยังเอาไม่อยู่ สาเหตุมลพิษมา หลายปัจจัยทั้งภาคอุตสากรรมโรงงาน ใส่ส่วนยวดยานยนต์ภาครัฐบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศโดยเฉพาะ โดยจะปรับจริง จับจริง สำหรับผู้ที่กระทำผิดที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต้องมีบทลงโทษกับโรงงาน-ผู้ประกอบการ ที่ก่อให้เกิดภาวะมลพิษทางอากาศในพื้นที่ด้วยเช่นกัน
ในส่วนภาคเกษตรนั้น เป็นอีกต้นตอของฝุ่นละออง เกษตรกรชาวนาชาวไร่ ยังคงมีการจุดไฟเผาป่า เผาวัชพืชกันอย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา และมีให้เห็นทุกวัน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อย ก่อนลงมือตัดอ้อยจะต้องมีการจุดไฟเผาไร่อ้อยนับร้อยไร่ ซึ่งเจ้าของไร่บอกมีความจำเป็นที่ต้องเผาไร่อ้อยก่อนตัดส่งโรงงานน้ำตาล ซึ่งเกษตรกรชาวไร่อ้อย บอกว่า การตัดอ้อยนั้นมี 2 อย่างให้เลือกคือ ใช้แรงงานตัดและรถตัดอ้อยซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีความจำเป็นมาก แต่การเผาไร่อ้อยจะเป็นผลดีแก่เจ้าของไร่อ้อยคือ การใช้แรงงานตัดแรงงานจะต้องเร่งตัดให้ได้เร็ว เผาอ้อยแรงไม่ต้องเสียเวลาสางใบอ้อยก่อนตัด ถ้าไม่เผาก่อนจะเสียเวลาสางใบอ้อยก่อน ประกอบกันโรรงานต้องการอ้อยแบบนี้
คุณสมหมาย ขอสงวนนามสกุล เจ้าของไร่อ้อยในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ชาวไร่อ้อยจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเผาไร่อ้อยก่อนตัด ประหยัดกว่าใช้รถตัด เผาแล้วตัดเร็วกว่าที่จะใช้รถตัด เพราะรถตัดมีจำนวนจำกัด แต่กลุ่มเกษตรกรมีเนื้อที่ทำไร่อ้อยอย่างน้อยคนละ 100-1,000 ไร่ พื้นที่การปลูกอ้อยหลายหมื่นไร่กว่าจะถึงคิวตัดรอรถบรรทุกไม่ทันต่อการส่งโรงงานรับซื้อ ทางโรงน้ำตาลมีเวลาเปิดรับซื้อแค่ระยะสั้นๆ หากล่าช้าจะขนย้ายไปขายไกลกว่าเดิม เกษตรกรต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก ราคาอ้อยได้รับซื้อแค่ตันละ 720 บาท หักค่ารถค่าแรงงาน เหลือแค่ตันละ 100 กว่าบาทเท่านั้น
ฉะนั้้น ปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะสั้น และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในปัจจบัน
—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์ ,ลักขณา สีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: