สระแก้ว – ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา จ.สระแก้ว ระบุ ครูในพื้นที่สระแก้วค้างชำระหนี้ ธ.ออมสิน และไม่สามารถเก็บหนี้ได้สูงถึง 490 ราย และมีหนี้สะสมกว่า 46 ล้านบาท โดยธนาคารเตรียมนัดไกล่เกลี่ย 18 ส.ค.61
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่บุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ จ.มหาสารคามและเกิดกระแสในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศออกมารวมตัวกัน เพื่อต้องการงดใช้หนี้ ช.พ.ค. กับธนาคารออมสินนั้น นายศักดิ์ชัย บรรณสาร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา จ.สระแก้ว กล่าวถึงกรณีนี้ว่า หากเป็นการดำเนินการเพื่อให้มีการงดใช้หนี้ก็ถือว่า ไม่ถูกต้อง และในวันที่ 18 ส.ค.61 ธนาคารออมสินนัดหารือกับสมาชิกครูที่เป็นหนี้ทั้งหมด เพื่อไกล่เกลี่ยและหาทางช่วยเหลือเพื่อนครูที่ยังมีหนี้อยู่กับธนาคารเข้าใจ เพราะหากจู่ ๆ งดใช้หนี้เลยก็จะมีความผิด
ทั้งนี้ สำหรับบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดสระแก้ว ที่ยื่นกู้เงินกับธนาคารออมสินตามโครงการ 2-7 ซึ่งค้างชำระหนี้ ถึงวันที่ 21 มิ.ย.61 มีจำนวน 490 ราย โดยแยกเป็นลูกหนี้เงินกู้ ช.พ.ค. ไม่สามารถเก็บหนี้ได้ 474 ราย เป็นเงิน 46,310,098 บาท และลูกหนี้ ช.พ.ส.หรือเป็นคู่สมรสอีก 16 ราย ค้างชำระ เป็นเงิน 165,544 บาท ส่วนลูกหนี้เงินกู้ ช.พ.ค.ชั้นดี ที่มีการปิดบัญชี เนื่องจากกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสระแก้ว จำกัด เพื่อรวมหนี้และปิดบัญชีเงินกู้ ช.พ.ค. 589 ราย และ ช.พ.ส 32 รายแล้วนั้น เป็นเงิน 1,130,000 บาท
“สิ่งที่ครูลูกหนี้ต้องการคือ ต้องการให้มีการลดดอกเบี้ย ซึ่งมีการลดมาแล้วส่วนหนึ่ง ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีการเจรจาเพื่อลดดอกเบี้ยกับธนาคารออมสิน โครงการละ 0.50-1.35 ต่อปีจากอัตราดอกเบี้ย MLR หรือ MRR ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือน มิ.ย.61 ที่ผ่านมา โดยมีครูบางรายไปกู้สหกรณ์เพื่อมาปิดบัญชี หรือบางส่วนไม่สามารถไปกู้สหกรณ์มาปิดบัญชีได้ เพราะเงินไม่พอให้หักบัญชี ทั้งนี้ การนัดลูกหนี้ครูที่ไม่สามารถเก็บเงินค้างชำระหนี้ได้ มาไกล่เกลี่ยกันในวันที่ 18 ส.ค.นี้ จะเป็นลักษณะของการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สามารถส่งเงินชำระหนี้ได้ต่อไป” นายศักดิ์ชัย กล่าว
