ปราจีนบุรี – สองแม่ลูกร้องเรียนสื่อ หลังลูกชายถูกเพื่อนบ้านทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
เมื่อวันที่ 28 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์จากนางปราณี ขอสงวนนามสกุล อยู่บ้านเลขที่ 161 ม.5 บ้านโปร่งกะพ้อ ต.หนองโพลง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยนางปราณี เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 26 ม.ค.63 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น.เศษ ขณะที่ตนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน ก็ตกใจตื่น เนื่องจากได้ยินเสียงเอะอะโวยวายโครม ๆ ที่ประตูหน้าบ้าน มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามห่างกัน 20 เมตร จำนวน 2 คน ได้ตรงมาด่าทอลูกชายที่อยู่ในบ้าน ทันใดนั้นกลุ่มชายดังกล่าวกับพวกอีก 3-4 คน พยายามที่จะพังประตูเหล็กเข้ามาทำร้ายตนและลูก ตนเอง บอกว่า หยุดกันได้แล้ว มันเรื่องอะไรกันกลับไปก่อนมันดึกแล้ว ทันใดนั้นได้มีการใช้ของแข็งทุบพังประตูเลื่อนและใช้ขวดเหล้าขว้างใส่ที่ประตูและหลังคาบ้านชุดใหญ่ ตัวเองรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ที่หางคิ้วซ้าย เมื่อเปิดไฟดู พบว่า มีเลือดไหลออกมาอาบแก้ม รู้สึกตกใจมาก โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ ขณะนั้นสายตรวจออกเหตุพื้นที่ข้างเคียง ตนจึงตัดสินใจขับรถไปแจ้งตำรวจที่สถานีตำรวจ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม.และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้แจ้งความกับ พ.ต.ท.เดช ภูมิสถาน สารวัตรเวรสอบสวน ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ผู้เสียหายรายเดิม ยังบอกอีกว่า วันรุ่งขึ้นมีคนโตในหมู่บ้านมาขอเคลียร์ บอกจะขอจ่ายเงินค่าทำหลังคาให้ใหม่สามพันบาท ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าอดสู เพราะว่าทางฝ่ายผู้ก่อเหตุที่เป็นแม่ลูกกันไม่ได้มาขอโทษและยอมรับผิดด้วยตัวเอง หลังก่อเหตุยังทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รับผิดชอบ ส่วนลูกชายกลับบ้านไปแล้วและไม่มาคุยด้วย
จากนั้น ผู้เสียหายจึงเดินทางไปขอพบกับ พ.ต.อ.พงษ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ โดยผู้กำกับ สภ.ระเบาะไผ่ ได้สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเบื้องต้น พร้อมกับเรียกหัวหน้าชุดสืบสวนมาพบและให้ออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาพบ เพื่อที่จะแสดงตัวและสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายมีความพอใจ จึงเดินทางกลับบ้าน เพื่อรอทางตำรวจเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง
ทางด้าน นายอุทัย ลูกชายของผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ตอนสายขณะที่ตนเองนั่งอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงลูกชายเพื่อนบ้านพูดถึงตนเอง เมื่อได้ยินดังนั้น จึงตะโกนถามไปว่า น้อง ๆ ถ้าคุยจะนินทาพี่มาคุยมาถามที่บ้านเลย อยากรู้เรื่องไร จากนั้นอีกฝ่ายพากันเงียบไป กระทั่งตกเย็นก็มีการถกเถียงกันอีกครั้ง ฝ่ายตรงข้ามมีเพื่อนเยอะพูดจายั่วยวนกระทั่งสามทุ่ม ยังแขวะกันอยู่ ต่างคนต่างว่ากันไปบ้าง ด้วยความโมโหสุดท้ายฝ่ายนั้นพากันกรูมา เพื่อทำร้ายถึงในบ้าน ใช้ขวดเหล้าขว้างปาใส่อย่างบ้าคลั่ง หลังก่อเหตุพากันหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม นายอุทัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอะไร แต่ฝ่ายตรงข้ามมักจะคุยเรื่องส่วนตัวตนเองเมื่ออยากรู้เรื่องส่วนตัวจริง ๆ ให้มาถามด้วยตัวเอง ไม่ใช่เอาไปพูดไปคุยกันเองโดยที่ไม่มีมูลความจริง
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง
