ปราจีนบุรี – หญิงชาวสวนวัย 63 ปี ไม่สนปัญหาแล้ง ปลูกมะเขือยาวเดินจากสวน 2 กม.ไปขายในตลาดนัด มีรายได้ดีถึง 1,500 บาท
เมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดภาวะภัยแล้งอย่างหนักในหลายพื้นที่ แต่ยังมีเกษตรกรหลายคนที่ยึดติดการทำเกษตร เลือกปลูกผักตามฤดูกาลและได้ผลเกินคาด ส่วนใหญ่หลายรายใช้วิธีปลูกเองขายเอง เน้นปลูกผักปลอดสาร ยิ่งขายคล่อง ราคาก็ถูกกว่าท้องตลาดจนไม่พอขาย โดยเฉพาะ “ป้าส้มลิ้ม แสงอรุณ” อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 386 ม.3 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งป้าส้มลิ้ม บอกว่า เลือกปลูกผักหน้าแล้ง เพราะง่ายแก่การขาย ไม่เน้นปลูกมาก ปลูกตามกำลัง ปลูกเป็นรุ่น ๆ แบบทยอยปลูก 7 วัน/ครั้ง ปลูกรุ่นต่อไปในแต่ละรุ่น ใช้พื้นที่แค่ 2 งานและไม่เกิน 2 ไร่ ปลูกเว้นระยะในการปลูก ยิ่งทำง่ายทั้งรดน้ำ และดูแลตลอดจนส่งขายตามตลาดใกล้บ้าน ทั้งนี้ ป้าส้มลิ้มแม้ว่าจะอายุมากแล้ว ลูก ๆ จะไม่ให้ทำงาน แต่ก็ยังทำเพราะว่า ต้องกินต้องใช้ทุกวัน ยังไม่ต้องพึ่งลูก ๆ ในปัจจุบัน
สำหรับมะเขือยาว ถือเป็นพืชที่ปลูกง่าย แค่ซื้อเมล็ดพันธุ์จากท้องตลาดมาเพาะลงดิน เมื่อต้นโตก็ถอนออกปลูก ระยะแถวห่าง 50 ซม.ระยะต้นห่าง 30 ซม.ยกร่องสูง 25 ซม. รดน้ำใช้น้ำจากบ่อบาดาลที่ขุดไว้ในสวน ต่อท่อเมนไว้ปล่อยน้ำใส่ร่องแปลง 25-30 วัน มะเขือก็จะเริ่มออกลูก ใส่ปุ๋ยคอก ขณะปลูกรดน้ำวันเว้นวัน ข้อดีของการปลูกมะเขือยาวหน้าแล้งคือ แมลงจะไม่กวน ผลยาวและใหญ่มาก ข้อสำคัญต้องหมั่นเด็ดใบทิ้งบ้างไม่ให้ไปแย่งอาหารกิน
ป้าส้มลิ้ม บอกอีกว่า ตนเองจะเก็บมะเขือยาวตั้งแต่เช้ากับลูก ๆ ที่มาช่วยดูแล ตนเองมีหน้าที่ขายเก็บครั้งละ 45-50 กก.ขาย กก.ละ 20 บาท ทั้งขนาดใหญ่และเล็กปนกัน เป็นลูกก็แบ่งขายลูกละ 5 บาท กับ 7 บาท แล้วแต่เล็กใหญ่ มีรายได้ในครัวเรือนวันละ 1,500 บาท โดยมองว่า การทำเกษตรตอนแก่ ก็ไม่ใช่ปัญหาของป้าส้มลิ้ม แม้จะเก็บผักใส่รถเข็นจากพื้นที่สวนเดินมาขายที่ตลาดนัด ระยะทาง 2 กม.ก็ไม่ใช่ปัญหา ถือเป็นการออกกำลังในตัวอีกทางหนึ่ง ไม่รู้สึกเหนื่อย ยิ่งเห็นเงินทำให้มีแรงทำงานต่อไปด้วย
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: